เป็นที่รู้กันดีในหมู่คุณแม่ว่าหลังจากเรามีเจ้าตัวน้อยแล้ว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เริ่มโหมเข้ามาทันทีแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นค่านมผง ค่าเสื้อผ้า ค่าของเล่นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมและอื่น ๆ อีกสารพัด ยิ่งถ้าไม่ได้คนรับขวัญด้วยสิ่งของเหล่านี้ บอกได้คำเดียวว่ามีโอกาสกระเป๋าแฟบแบบที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
วันนี้จึงมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่ผ่านภาวะเหล่านี้ไปได้ด้วยดี จะเป็นอะไรมาดูกันเลยค่ะ
1.อย่าเพิ่งเตรียมของล่วงหน้า
เรื่องนี้อาจต้องเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนคลอดลูกเลย เพราะว่าที่คุณแม่จำนวนมากกำลังเห่อลูกของตัวเองตั้งแต่ยังไม่คลอด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่มีประสบการณ์และเป็นท้องแรกซะด้วย ซึ่งคุณแม่กลุ่มนี้มักจะเตรียมของใช้ต่างๆจำนวนมาก เช่น เสื้อผ้าเด็กน่ารักๆหลากหลายตัว ขวดนม ของเล่นเด็กเซ็ทใหญ่รอไว้ แต่อันที่จริงการเตรียมของล่วงหน้านั้นเรียกได้ว่าเป็นการสิ้นเปลือง เพราะเรายังไม่รู้ว่าของแต่ละอย่างนั้นมีความจำเป็นต้องใช้ในระดับไหน ดังนั้นหากต้องการเซฟเงิน ก็รอเจ้าตัวน้อยลืมตาดูโลกก่อนดีกว่า
2.รับของที่ส่งต่อกันมา
ถัดมาก็คือรับของใช้ต่างๆที่ส่งต่อกันมา อาจเป็นมือสองหรือมือสาม แต่ถ้าใช้ได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่สิ่งของเหล่านี้จะเป็นเสื้อผ้าเด็กอ่อน ของเล่นเด็ก หรือแม้แต่เปลเด็กอ่อน เพราะเด็กทารกนั้นโตไวมาก เสื้อผ้าเด็กนั้นใช้ได้ไม่นานก็ใส่ไม่ได้แล้ว ดังนั้นการรับของจากคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียดและน่าลำบากใจแต่อย่างใด คุณแม่หลายๆคนที่มีลูกที่เริ่มโตแล้วอาจจะดีใจด้วยซ้ำที่ของตัวเองได้ทำประโยชน์ต่อให้กับคนอื่นด้วย
3.ลองเสิร์ชหาสินค้าราคาถูกจากอินเตอร์เน็ต
ถ้าหากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้อสินค้าเด็กอ่อน เราแนะนำว่าให้คุณแม่มือใหม่เปิดหาสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพราะหลายเว็บไซต์นั้นมักมีโปรโมชั่นเกี่ยวกับแพมเพิร์ส และของใช้เด็กอ่อน รวมถึงของที่ใช้บำรุงสุขภาพคุณแม่หลังคลอดด้วย และยิ่งสมัยนี้มีเว็บไซต์ส่วนลดที่จะช่วยให้การซื้อสินค้าเหล่านี้ประหยัดมากขึ้นกว่าเดิมอีก อย่างเช่น Saleduck เป็นต้น ที่มีหมวดหมู่สินค้าแม่และเด็กแบ่งให้เห็นแบบชัดเจน เพียงเท่านี้ก็จะได้สินค้าสำหรับเด็กอ่อนที่ต้องการในราคาประหยัดที่สุดแล้ว
4.ให้นมแม่นาน ๆ
เรื่องนี้ในทางการแพทย์มักย้ำกันมาตลอดว่า ในระยะ6เดือนแรก แม่ควรให้ลูกทานนมแม่แต่เพียงอย่างเดียว เพราะนมแม่นั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด โดยมีสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ส่วนภายหลัง6เดือนนั้นแม้ว่าจะสามารถเริ่มให้ทานนมผงได้ แต่อันที่จริงนมแม่นั้นสามารถให้ลูกน้อยทานได้จนถึงอายุ1ขวบกว่าเลย ดังนั้นหากต้องการให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด ก็ควรพยายามให้นมแม่กับลูกน้อยนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
5.กำหนดวงเงินค่าใช้จ่าย
ในอีกความหมายก็คือการทำบัญชีรายรับรายจ่ายและการกำหนดกับตัวเองว่า ในเดือน ๆ นี้จะมีงบประมาณสำหรับซื้อสินค้าสิ้นเปลืองประมาณเท่าไหร่ เพื่อที่จะไปลดรายจ่ายประเภทอื่นของตัวเองมาถัวเฉลี่ยกับรายจ่ายที่ไว้เลี้ยงดูลูกน้อยของตัวเอง วิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเป็นการบริหารเงินของตัวเอง และถ้าหมั่นทำก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างอื่นที่เกิดในชีวิตประจำวันของตัวเองอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเคล็ดลับดี ๆ ที่เรานำมาฝากกัน ก็หวังว่าคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายจะสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นสำหรับการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยนะคะ และครั้งหน้าหากเรามีเคล็ดลับดี ๆ จะนำมาฝากเพิ่มเติมค่ะ ส่วนใครที่ยังมีคำถามสงสัย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับนมแม่ สามารถเข้าไปหาอ่านความรู้เพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยนะคะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ
- เคล็ด(ไม่)ลับ : ทำอย่างไรเมื่อยุงกัดลูก
- 5 เคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพช่วยผ่อนคลายระหว่างรอคลอด
- 15 สิ่งที่ควรทำ ในสัปดาห์แรกของการเป็นคุณพ่อมือใหม่