สำหรับคนวัยหนุ่มสาว การแต่งงานถือเป็นความฝันยิ่งใหญ่ ที่หลายคนให้ความสำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์ภายในประเทศของเราไม่ค่อยสู้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือโครงสร้างต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุในการแต่งงานเป็นไปได้ยาก เนื่องด้วยปัญหาเหล่านี้ ส่งผลให้โดยตรงกับการค่าใช้จ่ายและการเงินส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในการจัดงานแต่ง ดังนั้นเราจึงรวบรวมวิธี เก็บเงินแต่งงาน ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้มาฝาก ให้คุณสามารถทำตามความฝันที่วางไว้ได้อย่างมีความสุข
6 เคล็ดลับ ช่วยให้ เก็บเงินแต่งงาน ได้เร็วขึ้น
ยุคนี้มีช่องทางมากมาย ที่สร้างผลตอบแทนไปพร้อมๆ การเก็บเงิน ทำให้การออมเงินสักก้อนไม่ใช้เรื่องยากเกินไป สำหรับคู่บ่าวสาวในปัจจุบัน ผู้ชายไม่ได้มีหน้าที่หาเงินมาจัดงานเพียงคนเดียว ฝ่ายหญิงเองก็ไม่ปล่อยให้คนรักลำบาก เมื่อตกลงเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว เรามีเคล็ดลับการเก็บเงินแต่งงาน ที่จะช่วยให้คุณสองไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็ว
1.เก็บเงิน 20% ก่อนใช้ทุกเดือน
การเก็บเงินออมที่ดี ไม่จำเป็นต้องรอให้เงินเหลือก่อน แล้วค่อยเก็บ เพราะความสามารถของมนุษย์อีกอย่างหนึ่ง คือสามารถใช้เงินได้เท่าที่มี ไม่มากจะมากหรือน้อย เพราะฉะนั้นแล้วเก็บก่อนใช้ เป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยจำนวนออมขั้นต่ำอาจอยู่ที่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาระที่จำเป็นของแต่ละคนด้วย
2.เปิดบัญชี สำหรับเก็บเงินแต่งงานโดยเฉพาะ
บัญชีเงินฝากสำหรับการเก็บเงินแต่งงาน จะทำให้คุณทั้งคู่เห็นความก้าวหน้าของการเก็บเงิน โดยควรเป็นบัญชีที่แยกออกจากการเงินส่วนตัว และควรให้สิทธิ์ในการเข้าถึงได้ทั้งสองคน เพื่อความเท่าเทียมในการจัดการ
3.หารายได้เสริม
สำหรับบางคู่ มีภาระที่ต้องผิดชอบต่อเดือนมากอยู่แล้ว การกั้นเงินออมไว้บางส่วนอาจทำได้ยาก การหารายได้เสริมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เช่น การขายของออนไลน์ ขายของตามตลาดนัด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ขนม อาหาร หรืออื่นๆ กำไรจากการขายอาจทำให้คุณไปถึงฝันเร็วกกว่าที่คิดก็เป็นได้
4.ต่อยอดเงินออม
ปัจจุบันมีคอร์สสอนการนำเบินไปต่อยอดมากมาย ที่มีความเสี่ยงไม่สูงมาก และมีการลงทุนบางประเภททาให้ผลตอบแทนดีในระยะเวลาไม่นาน เช่น การลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล การซื้อกองทุนความเสี่ยงต่ำ หุ้นบางประเภท เป็นต้น ส่วนจำนวนเงินที่คาดว่าจะลงทุน ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของแต่ละคู่ว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ว่าอย่างไร ควรศึกษาข้อมูลก่อนนำเงินไปลงทุน เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
5.กำหนดวันให้ชัดเจน
การมีเป้าหมายจะทำให้ พวกคุณทั้งสองคนสามารถกำหนดวงเงินและจำนวนเงินในการตัดออม ให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลา ที่กำหนด โดยส่วนมากแล้วการเก็บเงินแต่งงานควรใช้เวลา 2-3 ปี เพื่อไม่ให้กดดันทั้งคู่มากเกินไป ทั้งนี้อาจกำหนดเป็นปีแบบคร่าวๆ ก่อนก็ได้ และคำนวณงบประมาณที่จะต้องใช้ในการแต่งงาน ตัวอย่างเช่น งานแต่งงานจะใช้เงินในการจัดอยู่ที่ 300,000บาท โดยมีเวลา 3 ปีในการเก็บเงินแต่งงาน ซึ่งเมื่อคำนวณเงินที่จะต้องเก็บ จะตกปีละ 100,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 8,400 บาท เมื่อนำมาหารสองจะอยู่ที่ 4,200 ต่อคน การทำวิธีนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมและสามารถวางแผนได้
6.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
เมื่อมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว การเปิดเผยค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคล คงต้องคุยกันให้ละเอียด การทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะทำให้สามารถตัดสิ่งที่สิ้นเปลืองและฟุ่มเฟือยออกไปได้ เช่น ค่าเสื้อผ้า ค่าเดินทางท่องเที่ยว ค่าเหล้า และอื่นๆ อีก ทำให้เหลือแต่ภาระที่หลีกไม่ได้จริงๆ เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเดินทางในแต่ละวัน เมื่อตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ ก็จะเหลือเงินเก็บมากขึ้นนั่นเอง
ควรวางแผน เก็บเงินแต่งงาน ล่วงหน้าเมื่อไหร่
คำตอบของคำถามนี้ ขึ้นอยู่พื้นฐานทางการเงินของบ่าวสาว หากทั้งสองคนไม่มีภาระหรือหนี้สิน การเก็บเงินแต่งงาน อาจใช้เวลาไม่นาน 1 – 2 ปี ก็อาจได้เงินตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่สำหรับคนที่มีหนี้และภารจำเป็นต่างๆ ก็อาจจะใช้เวลามากกว่า 2 ปีก็ได้ เพื่อไม่ให้ทั้งคู่ต้องรับความกดดันมากเกินไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่งบประมาณในการจัดงานด้วยว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าใช้เงินเยอะก็อาจใช้เวลามากหน่อย ตามความเหมาะสม
รายจ่ายที่จำเป็นในงานแต่งมีอะไรบ้าง
ตามประเพณีไทย สิ่งที่สำคัญคือเงินสินสอด ที่เจ้าบ่าวต้องนำมาสู่ขอเจ้าสาวในวันแต่งงาน เงินจำนวนนี้เป็นการตกลงของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งอาจได้กลับมาหรือไม่ได้ก็แล้วแต่ครอบครัวนั้นๆ ต่อมาคือค่าจัดงาน ค่าสถานที่ งานจัดเลี้ยง รวมไปค่าชุดบ่าวสาว และค่าใช้จ่ายจิปาถะ เช่น แหวนแต่งงาน หมอดูฤกษ์ยาม พระ ช่างแต่หน้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตามความรักเป็นเรื่องที่สวยงามระหว่างคนสองคน การแต่งงานเป็นเพียงงานเฉลิมฉลองให้กับความรักที่สุขงอกของบ่าวสาวเท่านั้น สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือคุณทั้งสองคนได้ตกลงร่วมเดินทางไปในชีวิตที่เหลือ เฉพาะฉะนั้นอย่าให้เรื่องการจัดงานแต่งหรือเรื่องเงิน มาขัดขวางเส้นทางชีวิตที่กำลังไปได้สวยของคุณทั้งสองคนเลย สุดท้ายนี้ขออวยพรให้บ่าวสาวรักกันยาวนาน และมีความสุขกับเป้าหมายที่วางแผนร่วมกันไว้
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ
- แม่ท้องควรบริโภคไอโอดีนเพื่อช่วยพัฒนาสมองลูกในครรภ์
- โรคสมองพิการ หรือ โรค Cerebral Palsy คืออะไร
- พัฒนาการสมองของลูกยามหลับ (วัยแรกเกิด – 6 เดือน)