หลังจากที่มีข่าวอุบัติเหตุรถเมล์สาย 33 เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์สามล้อ เมื่อ 3 มี.ค.2559 โดยมีนางกมลวรรณ เจริญศิริ ที่ป่วยเป็นโปลิโอขาลีบทั้งสองข้าง เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์สามล้อ ซึ่งมีลูกสาว คือ น้องแหวน ด.ญ.ชุติการณ์ อายุ 9 ปี ซ้อนไปด้วย เพื่อไปขายไอศกรีม ส่งผลให้น้องแหวนกระเด็นตกรถกลิ้งเข้าไปใต้ท้องรถเมล์คันดังกล่าว ทำให้ขาขวาของน้องแหวนถูกล้อรถบดขยี้กระดูกแหลก ต้องกลายเป็นคนพิการ
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jeen Indum ได้โพสต์ข้อความว่า นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนถึงวันนี้ คดีความดังกล่าวกลับยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ส่วนน้องแหวน หมอต้องตัดขาทิ้ง ต่อให้หายก็ใส่ขาเทียมไม่ได้เพราะขาขาดตั้งแต่สะโพก น้องต้องสู้กับการผ่าตัดทั้งหมด 4 ครั้ง นอนโรงพยาบาลห้อง ICU มาจนวันนี้เป็นเวลา 2 เดือน ร่างกายเริ่มบวมน้ำเกลือ ขาอีกข้างลีบลงเพราะไม่ได้ใช้งาน จากเด็กเรียนดี กตัญญูช่วยงานพ่อแม่ ต้องหมดสิ้นอนาคตลง
ส่วนค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเป็นเงินล้านกว่าบาท แต่น้องแหวนก็ได้สิทธิ์รักษาของคนพิการ แต่ทั้งนี้ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างค่ายา ค่าอื่นๆ ที่ครอบครัวน้องต้องจ่ายเอง คุณพ่อของน้องแหวน ซึ่งเป็นผู้พิการแขนซ้ายขาดและเดินกะเผลกเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ต้องหยุดขายล็อตเตอรี่ เพื่อมาดูแลลูกสาวตลอด 24 ชั่วโมง เล่าว่า ไม่รู้เลยว่าต้องไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ายา อีกทั้งยังต้องมาเช่าห้องอยู่ใกล้โรงพยาบาล เดือนละ 5,000บาท เพราะค่ารถไปกลับจากปากเกร็ดมาศิริราชต่อวันแพงมาก
ขณะที่คนขับรถโดยสารประจำทางสาย 33 ซึ่งเป็นคู่กรณีก็ไม่เคยมาตามนัดหมายที่ตำรวจเรียก อีกทั้งยังมีชายฉกรรจ์แปลกหน้าจำนวน 3 คนมาข่มขู่ปิดปากพ่อและแม่น้องแหวน บอกว่า อย่าทำให้เป็นข่าวอีก อย่ารื้อฟื้นคดี อย่าให้สังคมต้องมาประณาม ไม่งั้นไม่รับรองชีวิต
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ระบุว่า อยากให้สังคมช่วยกันแชร์เรื่องราวของครอบครัวที่น่าสงสารนี้ออกไป เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในส่วนของคดีที่ติดค้างอยู่ ให้กับครอบครัวนี้ ที่ตอนนี้พิการหมดแล้วทั้งครอบครัว เด็กน้อยที่กำลังจะเติบโต ชีวิตแทบพังเพราะอุบัติเหตุครั้งเดียวที่เปลี่ยนทั้งชีวิต
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ