คุณพ่อคุณแม่หลายท่านส่วนใหญ่มักได้รับคำแนะนำว่า เด็กควรจะนอนเปล เพราะจะทำให้หลับนาน ช่วยทำให้คุณแม่มีเวลามากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันผู้ผลิตเปล ก็ผลิตเปลออกมาหลายแบบหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน นับว่าล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก จนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ อดทนไม่ไหว ต้องยอมควักกระเป๋าซื้อมาเตรียมให้ลูกได้ใช้กันเลยทีเดียวค่ะ
แต่พอลูกคลอดออกมาจริง ๆ เปลที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อเตรียมไว้ให้นั้น ลูกกลับไม่ชอบใจ พอเอาลงนอนในเปล ก็ร้องไห้งอแง จะกล่อมให้นอนแต่ละทีก็แสนจะยาก สุดท้ายก็ต้องอุ้มกล่อมกัน ไม่เห็นเป็นไปตามที่คนแนะนำบอกเลย ในที่สุดเปลนั้นก็กลายเป็นที่ใส่สัมภาระต่าง ๆ และถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของแทน หรือบางท่านก็ขายทิ้งไป ปัญหานี้เป็นเพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เลือกเปลไม่เหมาะสมกับลูกค่ะ
การเลือกเปลให้ลูก
เด็กทารกที่คลอดมาใหม่ ๆ ยังชินกับการอยู่ในที่แคบ ๆ เวลานอนเปลที่กว้าง ๆ เขาดูเหมือนอ้างว้างไม่ปลอดภัย ดังนั้นเปลที่เลือกให้ลูกนอนต้องมีความกระชับตัวเด็ก ให้เด็กรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในครรภ์ของมารดา ซึ่งจะเหมือนกับภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นำผ้าขาวม้ามาผูกปลายทั้ง 2 เป็นเปล แล้วไกวให้เด็กนอน บางคนเรียกเปลแบบนี้ว่า เปลอู่ เปลโซ่ เปลเรือ เปลโบราณ เปลเหล่านี้ช่วยให้เด็กหลับได้ดีและนานเลยค่ะ
ปัญหาจากการให้ลูกนอนเปล
คุณพ่อคุณแม่ที่ให้ลูกนอนเปล แม้จะหลับได้นาน ทำให้ Growth hormone หลั่งออกมาได้ดี แต่ก็มักจะมีปัญหาว่าลูกมีอาการติดเปล แบบชนิดที่ว่า ขาดกันไม่ได้ ไม่สามารถนอนเองได้ ถ้าไม่ได้ลงเปล ไม่มีใครไกวเปล เรียกว่า ไปไหนก็ต้องหอบเปลไปด้วย อาจสร้างภาระให้คุณพ่อคุณแม่เพิ่ม ในกรณีที่ต้องออกไปค้างนอกบ้าน
การให้ลูกนอนเปลตั้งแต่แรกเกิดอาจทำให้รูปศีรษะของลูกไม่กลมสวยอีกด้วย แต่การไกวเปลไม่ได้มีผลอะไรต่อสมองของลูกค่ะ ยกเว้นคุณพ่อคุณแม่ติดตั้งเปลไม่ดี ไม่แข็งแรง เปลอาจขาด ลูกอาจตกลงมาหัวกระแทกพื้นได้ การติดตั้งเปลไม่ควรผูกสูงกว่าพื้นมากนะคะ และควรมีผ้ายางนิ่ม ๆ รองกันกระแทกไว้ด้วยค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ