ในปัจจุบัน พ่อแม่หลาย ๆ คน มีความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกมากขึ้น อาจเป็นเพราะมีสื่อที่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกหลากหลายช่องทางให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หมดกังวลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกไปหลายอย่าง
แต่หากย้อนกลับไปในสมัยก่อนราว ๆ 65 ปีที่ผ่านมา คนในยุคสมัยนั้นจะเข้าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกได้อย่างไรบ้างนะ?
ชุดภาพโปสเตอร์ที่เห็นนี้ เป็นภาพการอบรมเลี้ยงดูลูกที่ผลิตขึ้นใน เซี่ยงไฮ้ ปี ค.ศ. 1952 หรือ พ.ศ.2495 เป็นภาพที่มอบให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองใช้ดูเป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกในช่วงเวลานั้น และบางอย่างที่แสดงในภาพก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าเทคโนโลยี ที่มากขึ้น เวลาที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำให้การเลี้ยงลูกเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
เรามาดูภาพแนวทางการเลี้ยงลูกของคนในสมัยก่อนกันค่ะ ว่าแต่ละภาพมีความหมายอย่างไรบ้าง?
พัฒนาการทางอารมณ์ของลูก มาจากการแสดงความรักของพ่อแม่
ถ้าคุณมอบความรักความเอาใจใส่ให้เค้าน้อยเกินไป เค้าก็จะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด
การลงโทษและดุด่าเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ได้ช่วยให้ลูกเรียนรู้
การเลี้ยงลูกด้วยความรักและการดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอ จะทำให้เด็กมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง เช่นเดียวกับสายฝนและดวงอาทิตย์ ที่มีความสำคัญต่อพืช ช่วยให้เติบโตและเบ่งบาน
การให้ความรักและความเมตตา
การได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เมื่อพ่อแม่แสดงความรักอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ ทารกสามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัย
การส่งเสริมให้เด็กรักสัตว์ จะช่วยปลูกฝังอารมณ์ของพวกเขาให้รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ควรส่งเสริมจินตนาการให้กับลูก
เด็ก ๆ มักมีจินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด เด็กบางคนอาจพูดว่า หนูมีเครื่องบินลำใหญ่เท่าบ้าน เด็กคนนั้นไม่ได้พูดเท็จ การพูดไปนั้นเป็นเพียงจินตนาการที่เด็กสมมุติขึ้น
การวาดภาพจะช่วยให้เด็กได้แสดงจินตนาการของเขาออกมา
การเล่นตัวต่อ หรือ ของเล่นบล๊อกไม้ จะช่วยทำให้จินตนาการของเด็กโลดแล่น ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ค่ะ
สอนให้รู้จักความกล้าหาญและความหวาดกลัว
สนับสนุนให้ลูกมีความกล้าหาญ ในสิ่งที่ถูกต้อง และช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อมีความหวาดกลัวเข้ามาในจิตใจของลูก
การเลี้ยงลูก รักลูกแบบเท่าเทียมกัน
เมื่อมีลูกมากกว่า 1 คนขึ้นไป ควรให้ความรักลูกเท่า ๆ กัน พ่อควรรักลูกชายให้เท่ากับลูกสาว ของเล่น ของกิน ควรแบ่งให้เท่ากันทุกครั้ง อาจมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการเลี้ยงลูกหลายคน แต่การแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ให้เท่าเทียมกันเด็กจะเป็นคนดี เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ค่ะ
เด็กทุกคนมีความอยากรู้ อยากเห็น
การอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ไม่ใช่สิ่งที่ชี้ว่าเด็กต้องการทำลายข้าวของ บางครั้งที่เด็กทำลายของเล่น เพราะเขาอยากรู้ส่วนประกอบ หรืออยากรู้อย่างอื่นมากกว่านั้น กระดาษที่ขาดหรือของเล่นที่พัง เด็กอาจไม่ได้ต้องการทำให้ของเสีย แต่เป็นเพราะความอยากรู้ และต้องการศึกษาอะไรเพิ่มเติมเท่านั้นเองค่ะ
คำถามที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เด็กบางคนจะถามสิ่งต่าง ๆ รอบตัวตลอดเวลา เช่น ฉันและน้องเกิดมาได้อย่างไร คำถามเหล่านี้ก็ดี เพราะเป็นการเปิดโอกาสสอนลูกเรื่องเพศศึกษา อาจยกตัวอย่างของสิ่งรอบข้างเช่นสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ หมา แมว ที่ลูกเลี้ยงอยู่ก็ได้ค่ะ
เด็กจะรู้จักความตาย
ในช่วงอายุหนึ่ง เด็กจะรู้จักเรื่องการตายของผู้คน และอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความตายมาถามคุณ
คุณสามารถยกตัวอย่างจากสิ่งใกล้ตัว เช่น ต้นไม้วันนึงก็สามารถเหี่ยวแห้งไป นกก็สามารถตายได้เช่นกัน ความตายเป็นสิ่งสิ้นสุดในการดำรงชีวิต คุณควรใช้โอกาสนี้สอนลูกเรื่องความไม่แน่นอนของชีวิต เพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
ในเวลา 65 ปีที่ผ่านมา นับจากมีการผลิตชุดภาพโปสเตอร์นี้ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวเข้ามามากมายเพียงใด แต่เราจะเห็นได้ว่าการสอนลูก และการเลี้ยงลูกไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก คำสอนต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนนำมาใช้ได้ในยุคปัจจุบันได้อย่างดีทีเดียวค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ
- 9 วิธีสอนให้ลูกเป็นเด็กมีความมั่นใจในตัวเอง
- เปลี่ยนความคิด! เลี้ยงลูกชายต้องสอนให้อดทน เลี้ยงลูกสาวให้อ่อนโยน
- 43 ภาพสุดซึ้ง! เมื่อแม่ของฉันคอยเป็นกำลังใจ ในวันที่ฉันคลอดลูก