ใครๆก็มักจะบอกเสมอว่าการมีลูกเป็นเรื่องที่แสนพิเศษที่ผู้หญิงต้องได้สัมผัสสักครั้งในชีวิต แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยมีใครบอกคุณแม่มือใหม่อย่างจริงจัง นั่นก็คือปัญหาต่างๆนาๆหลังคลอด ที่คนเป็นแม่ต้องรับมือ เพราะการตั้งท้องนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณแม่ได้ไม่น้อย ฉะนั้นแล้วคนเป็นแม่จึงต้องเตรียมพร้อมในการดูแลตัวเองและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเอง วันนี้เราจึงมาพูดถึงปัญหาหลักๆที่คุณแม่มักเจอกันบ่อยๆ รวมถึงวิธีแก้ไขอย่างง่ายๆที่จะช่วยให้คุณแม่สามารถรับมือกับปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดี
-ช่องคลอดหลวม
จัดเป็นปัญหาใหญ่ที่คุณแม่มักกังวลกันเป็นอันดับต้นๆหลังคลอด แม้ว่าอันที่จริงปัญหาเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติธรรมชาติมากๆก็ตาม เนื่องจากรู้สึกว่าหลายๆอย่างในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป หย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะในบริเวณช่องคลอดหลังจากผ่านการคลอดมาแล้ว ทำให้ช่องคลอดขยายตัวจนดูไม่ฟิตเหมือนเก่า จนกลัวว่าสามีจะไม่ชอบ
ซึ่งวิธีแก้ไขก็ไม่ยากอย่างที่คิด คุณแม่ก็เพียงแค่ต้องออกกำลังกายอย่างง่ายๆเพื่อช่วยในการยกกระชับช่องคลอด ซึ่งต้องขอเน้นว่าอย่าหักโหมเด็ดขาดนะคะ เน้นการออกกำลังกายที่เบาๆง่ายๆก็พอ การออกกำลังกายที่ช่วยได้ดีคือการสควอทและโยคะ แต่สำหรับคุณแม่ที่ยุ่งกับการเลี้ยงลูกมากจนไม่มีเวลาออกกำลังกายก็อาจะใช้วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการขมิบค่ะ หมั่นขยิบบ่อยๆอย่างน้อยวันละ 100 ครั้ง หรืออาจจะเน้นสมุนไพรเสริมเข้าไปด้วย เช่น ว่านชักมดลูก ที่นอกจากช่วยยกกระชับช่องคลอดแล้วยังช่วยเรื่องมดลูกอีกต่างหาก บอกเลยว่าฟิตเปรี๊ยะแน่นอน
-พุงไม่ยุบ
ปัญหาอีกประการที่สร้างความกังวลไม่แพ้กันก็คือรูปร่างของผู้หญิงอย่างเราๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน เพราะคุณแม่ย่อมต้องเผชิญกับน้ำหนักตัวและหน้าท้องที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์อยู่แล้ว ซึ่งควรจะต้องลดลงเมื่อคลอดเรียบร้อย แต่กลายเป็นว่าแม้ว่าจะคลอดไปแล้วหน้าท้องก็ยังไม่ยุบลงอย่างที่คาดเอาไว้ รูปร่างไม่ต่างอะไรกับตอนท้องเหมือนเดิม สร้างความวิตกกับคุณแม่ที่รักที่กลัวว่าหุ่นตัวเองจะเสียจนกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้
อย่างแรกต้องแยกเสียก่อนว่าปัญหาพุงไม่ยุบนี้เกิดมาจากน้ำหนักเพิ่มที่สะสมมาตั้งแต่ตั้งครรภ์หรือเปล่า เพราะในระหว่างท้องคุณแม่หลายคนมักไม่ค่อยควบคุมการกินมากนัก ด้วยเหตุผลว่าต้องการกินเผื่อลูกในท้อง จนทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ ซึ่งก็แก้ได้ง่ายๆด้วยการปรับเปลี่ยนการกินด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้เป็นสำคัญ และออกกำลังกายเบาๆอยู่บ่อยๆ หรือในอีกกรณีหนึ่งพุงไม่ยุบคือมดลูกยังไม่เข้าอู่ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่มดลูกจะเข้าที่และพุงยุบกลับเป็นปกติ ซึ่งคุณแม่สามารถเร่งให้มดลูกเข้าอู่ได้ไวๆด้วยการให้ลูกดูดนมบ่อยๆ หรือรับประทานสมุนไพรช่วยได้เช่นกัน แต่ถ้ายังแก้ไม่หายก็ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลืออีกที เพราะนั่นหมายถึงมดลูกของเรากำลังมีปัญหานะ
-เครียด,ซึมเศร้า
บทบาทในฐานะแม่ต้องใช้ทั้งความเสียสละและความอดทนอย่างสูงเอามากๆ เพราะการเลี้ยงลูกเล็กๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว ไหนจะต้องรับมือกับลูกที่ร้องไห้โยเยทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้อาจส่งทำให้คุณแม่มือใหม่เกิดอาการเหนื่อยล้าและอารมณ์แปรปวน นอกเหนือจากนี้การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนของคุณแม่ยังส่งผลให้เกิดอาการ Baby Blue หรือภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจรวมไปถึงการเลี้ยงดูลูกของแม่เป็นอย่างมาก
ปัญหาเช่นนี้คุณแม่ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง ปัจจัยสำคัญคือบุคคลที่อยู่รอบข้างโดยเฉพาะสามี ที่จะต้องให้ความเข้าใจและใส่ใจในสภาพจิตใจที่เปลี่ยนแปลงของคนเป็นแม่ หากคุณแม่คนไหนที่มีอารมณ์เศร้าและหดหู่ หรือเกิดความเครียดมากๆ อย่าลังเลที่จะแสดงออกและพูดคุยตรงๆกับสามีตัวเอง เพื่อน และครอบครัว เพื่อให้บุคคลอื่นๆเข้ามาให้ความช่วยเหลือได้ อาจจะมีการแบ่งปันหน้าที่การเลี้ยงลูกให้สามีบ้าง รวมไปถึงให้การใส่ใจ ห่วงใย และดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้คุณแม่ต้องอยู่คนเดียว เพียงเท่านี้ก็สามารถบรรเทาอาการที่ว่ามาได้แล้วค่ะ
-น้ำนมน้อย
ปัญหาความเครียดจากที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากจะมีผลต่อสภาพจิตใจแล้วอาจลามไปถึงร่างกายด้วยเช่นกัน เพราะความวิตกกังวล ความเครียด ความหงุดหงิดของคุณแม่มีผลทำให้ร่างกายผลิตน้ำนมออกมาได้น้อย ทำให้ไม่มีน้ำนมมากพอที่จะไปเลี้ยงลูก กลายเป็นปัญหาใหม่ที่ทำให้คุณแม่เครียดหนักกว่าเดิมเสียอีก เพราะน้ำนมจากแม่ถือเป็นอาหารชั้นเลิศที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์มากมาย ส่งผลต่อทั้งการเติบโตและพัฒนาการสำหรับลูกน้อยเป็นอย่างมาก ฉะนั้นแล้วการให้นมลูกอย่างเพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆสำหรับคนเป็นแม่นั่นเอง
สำหรับหนทางแก้ไขเรื่องนี้ก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่หลักๆคือการที่คุณแม่ต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้แจ่มใสและอย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดหนักกว่าเดิมที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำนมด้วย และพยายามเอาลูกเข้าเต้าบ่อยๆแม้ว่าตอนนั้นจะมีหรือไม่มีน้ำนมก็ตาม เพราะการให้ลูกดูดนมจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมออกมาได้มากขึ้น อาหารการกินก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยได้เช่นกัน ซึ่งก็มีหลากกลายเมนูที่เป็นที่แนะนำสำหรับคุณแม่ ทั้งแกงเลียงหัวปลี ผัดกุยช่ายใส่ตับ ไก่ผัดขิงก็ช่วยได้ดีเช่นกัน
นอกจากนี้การใช้อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกไม่น้อย ปัจจัยสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ดี ปลอดภัย และผ่านมาตรฐานการรับรองจริงๆ ซึ่ง อาหารเสริม Mada นับว่าตอบโจทย์คุณแม่ที่ต้องการเพิ่มน้ำนมให้ลูกเป็นอย่างมาก เพราะผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรต่างๆทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งยังมีสารอาหารต่างๆมากมายที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ อาทิเช่น
- Ginger Extract Powder ช่วยระบายของเสียตกค้าง ร่างกายฟื้นตัวได้ไว น้ำนมไหลได้ดีขึ้น
- Yeast Beta-Glucan 85% ดูแลสุขภาพร่างกายองค์รวม
- Fish Oil Powder (Omega 3) ส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีผ่านทางน้ำนมแม่
- Fenugreek Extract ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม
- Citrus Bioflavonoid เป็น antioxidant ป้องกันการแก่ก่อนวัย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
- Calcium Ascorbate กระตุ้นการสร้าง collagen ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง
- Reishi Extract บำรุงให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี
และสารสำคัญที่มีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแล้วยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดของคนเป็นแม่อีกด้วย เรียกว่าได้ประโยชน์ถึงสองต่อเลยเชียวนะ นี่แหละตัวช่วยที่แสนพิเศษของคุณแม่จริงๆ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ MADA ได้ที่
https://www.facebook.com/mada.office/
Line : @mada
โทร : 02-0263806
และทั้งหมดนี่ก็คือเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆในการรับมือกับสารพัดปัญหาจุกจิกหลังคลอดของคุณแม่มือใหม่ ซึ่งหลายครั้งปัญหาเหล่านี้ก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้บรรดาแม่ๆได้ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญในการอดทนฟันฝ่าปัญหาต่างๆก็คือพลังใจของคนเป็นแม่เอง ที่พร้อมจะสู้และแก้ไขปัญหาเพื่อตัวเองและเพื่อเจ้าตัวน้อยอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก