จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลอย่างหนักต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงตลาดนมพาณิชย์ การรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจึงลดลง เกิดปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด รวมถึงหลายครอบครัวกำลังเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้เด็กๆ อาจจะไม่ได้ดื่มนมและยิ่งขาดแคลนอาหารว่างที่มีสารอาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โครงการ “เติมรอยยิ้ม ปันน้ำใจ เสริมสร้างเยาวชนไทยแข็งแรง” โดย บริษัท คชเชอร์ โกลบอล ฟู้ด จำกัด จึงนำผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด ผลิตจากน้ำนมดิบของเกษตรกรไทย ส่งมอบให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ และสถานศึกษาที่ขาดแคลนทั่วทั้งประเทศเพื่อแสดงความห่วงใยในสุขภาพ และส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสเข้าถึงและได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากนม
กมลรัตน์ แพเพชรทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชเชอร์ โกลบอล ฟู้ด จำกัด ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด กล่าวว่า “คชเชอร์ โกลบอล ฟู้ด เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแดรี่โปรดักส์ หรือผลิตภัณฑ์กลุ่มนม และจากการที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับ สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ในการผลิต นมอัดเม็ด Q-LIFE by สหกรณ์โคนมวังเย็น จากน้ำนมโคแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงเล็งเห็นถึงปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่เรียกได้ว่าเกิดวิกฤตน้ำนมดิบล้นตลาดมากเป็นพิเศษ จึงเป็นที่มาของโครงการ “เติมรอยยิ้ม ปันน้ำใจ เสริมสร้างเยาวชนไทยแข็งแรง” ซึ่งต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศจากผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยสามารถช่วยบรรเทากลุ่มผู้เดือดร้อนได้ถึงสองมิติ
โดยในมิติแรก เราสามารถช่วยลดน้ำนมดิบในตลาดโดยนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด ซึ่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และยังเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพภายในสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น และในอีกมิติคือ เราได้แบ่งนำผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ดดังกล่าว ส่งมอบให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ และสถานศึกษาที่ขาดแคลนทั่วทั้งประเทศ เพื่อแสดงความห่วงใยในสุขภาพ ส่งต่อกำลังใจ และช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนนมหรืออาหารว่างที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กๆ ที่ผู้ปกครองขาดรายได้จากผลกระทบเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสเข้าถึงและได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากนม
นอกจากนี้นมอัดเม็ดยังพกพาง่าย จัดเก็บง่าย สะดวกต่อการขนส่งเพื่อเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล โดยโครงการ “เติมรอยยิ้ม ปันน้ำใจ เสริมสร้างเยาวชนไทยแข็งแรง” ได้มีการส่งมอบนมอัดเม็ดแล้วทั้งสิ้นจำนวนกว่า 700 ลัง โดยแบ่งเป็น ส่งมอบให้กับ เรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งต่อให้กับสถานศึกษาและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 150 ลัง, ส่งมอบให้กับ มูลนิธิกระจกเงา จำนวน 200 ลัง และส่งมอบให้กับโรงเรียนต่างๆ ไปแล้ว ดังนี้
- โรงเรียนดรุณศึกษา และโรงเรียนวิชาวดี จ. นครสวรรค์,
- โรงเรียนนิคมบางระกำ จ. พิษณุโลก,
- โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิ์อัน,
- โรงเรียนวัดยาง และโรงเรียนบ้านหนองสำโรง จ. สุพรรณบุรี,
- โรงเรียนศาลาตึกวิทยา,
- โรงเรียนตลาดเกาะแรต,
- โรงเรียนเทศบาล 1 วัดลำลูกบัว จ. นครปฐม,
- โรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง จ. กาญจนบุรี,
- โรงเรียนพระแม่สกลสงเคราะห์,
- โรงเรียนวัดประชารังสรรค์,
- โรงเรียนวัดโมลี (นันทวิมล) จ. นนทบุรี,
- โรงเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลควนเนียง จ. สงขลา,
- โรงเรียนบ้านกุดเรือคำ,
- โรงเรียนบ้านคำเจริญ,
- โรงเรียนบ้านคูสะคาม,
- โรงเรียนบ้านโคกก่องสหมิตรวิทยาคาร,
- โรงเรียนบ้านโคกแสง,
- โรงเรียนบ้านจำปาดง,
- โรงเรียนบ้านนายม จ. สกลนคร
จำนวนกว่า 250 ลัง รวมมูลค่าทั้งโครงการทั้งหมด 2,310,000 บาท สามารถช่วยลดปริมาณน้ำนมดิบที่ล้นตลาดได้มากถึง 40 ตัน
“เราตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างรอยยิ้มให้กับเยาวชน ผ่านผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ดคุณภาพสูงจากน้ำนมโคแท้ และยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนให้ได้รับประโยชน์ โปรตีนจากนมวัวที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และส่วนที่สึกหรอ มีแคลเซียม และวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต” กมลรัตน์ แพเพชรทอง กล่าวสรุป