น้ำมันพืชที่มีขายตามท้องตลอดทั่วไปนั้น อาจแยกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆค่ะ คือ น้ำมันพืชชนิดที่เป็นไข และน้ำมันพืชชนิดที่ไม่เป็นไข แล้วถ้าหากคุณแม่อย่างเราๆ นี้จะทำอาหารให้ลูกรับประทาน ควรจะใช้น้ำมันพืชแบบไหนดีนะ เรามาทำความรู้จักกับน้ำมันพืชทั้ง 2 ชนิดนี้กันดีกว่าค่ะ
น้ำมันพืชชนิดที่เป็นไข
น้ำมันพืชชนิดที่เป็นไข จะมีไขมันอิ่มตัวจำนวนมากเมื่อตั้งทิ้งไว้ในที่อากาศเย็นจะเริ่มเกาะตัวกันค่ะ เช่นน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันประเภทเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ทำอาหารให้เด็กเล็กๆรับประทาน เพราะระบบการย่อยอาหารของเด็กเล็กๆนั้นยังไม่ดีนัก เมื่อทานเข้าไปจะย่อยยากค่ะ
แต่น้ำมันชนิดนี้จะทนต่อความร้อน ความชื้นและออกซิเจน ไม่เหม็นหืน เวลาที่ถูกความร้อนสูงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน เรามักใช้ในการทอดเพื่อทำให้อาหารกรอบน่ารับประทาน
น้ำมันพืชชนิดที่ไม่เป็นไข
น้ำมันพืชชนิดที่ไม่เป็นไข เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันคาโนลา ฯ น้ำมันพืชเหล่านี้มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ในการสร้างเซลล์ต่างๆได้ดี อีกทั้งยังมีกรดไขมันกลุ่มโอเมกา ที่มีความจำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมองของเด็ก จึงเหมาะสมกับเด็กที่กำลังเจริญเติบโตค่ะ
แต่ข้อเสียของน้ำมันพืชชนิดนี้คือ เมื่อถูกทำลายจากความร้อนสูงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะกลายเป็นสารโพลาร์ ซึ่งทำให้น้ำมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งสารโพลาร์เหล่านี้ อาจทำให้เกิดโรคหัวใจ จากเส้นเลือดหัวใจตีบตัน อาจจะทำให้เป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ทำให้ตับเสื่อมได้
ดังนั้นหากคุณแม่จะทำอาหารให้ลูกรับประทาน อาหารประเภททอดกรอบ ควรเลือกใช้น้ำมันปาล์ม ส่วนอาหารประเภทผัด ให้ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว มันถั่วเหลืองฯแทนนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยค่ะ ^^
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : lifenutrition.com