การผ่าคลอด เป็นทางเลือกหนึ่งในการคลอดลูกที่ช่วยให้คุณแม่และเด็กปลอดภัย ในกรณีที่การตั้งครรภ์มีความผิดปกติหรือแพทย์มีการวินิจฉัยว่าคุณแม่ต้องใช้วิธีผ่าคลอด การผ่าคลอดในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยง ที่จะทำให้ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งขณะผ่าตัดและหลังการผ่าตัดได้มากขึ้นและยังช่วยให้ แผลผ่าคลอด ดูสวยงามมากขึ้นอีกด้วย คุณแม่หลายคนกังวลในเรื่องของการผ่าคลอดเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าคลอดมาฝากไม่ว่าจะ ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง รวมถึงเรื่องของ แผลผ่าคลอด จะเป็นอย่างไรจะเป็นอันตรายมากน้อยเพียงใด
ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง เรามีคำตอบ
ผ่าคลอดได้กี่ครั้งโดยทั่วไปการผ่าคลอดจะสามารถทำได้ในคุณแม่ที่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของสุขภาพของตัวแม่เอง หรือปัญหาเกี่ยวกับทารก สำหรับการผ่าคลอดเป็นวิธีที่ปลอดภัยทั้งคุณแม่และทารก โดยการผ่าคลอดแต่ละครั้งแพทย์จะกรีดเปิดชั้นผิวหนังต่าง ๆ ลงไปถึง 5 ชั้นด้วยกัน จึงจะสามารถกรีดเปิดมดลูกเพื่อนำทารกออกมาจากถุงน้ำคร่ำได้ จากนั้นก็จะทำการเย็บมดลูกและชั้นผิวหนังต่าง ๆ เข้าด้วยกันทีละชั้น ๆ จนครบ ถือเป็นอันเสร็จสิ้น หลังผ่าคลอดคุณแม่อาจจะต้องมีการพักฟื้นร่างกายโดยใช้เวลาช่วงระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นคำตอบว่าผ่าคลอดได้กี่ครั้ง แพทย์จะสามารถทำการผ่าคลอดได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น
ความเสี่ยงของการผ่าคลอดมากกว่า 2 ครั้ง
ผ่าคลอดได้กี่ครั้งคุณแม่สามารถทำการผ่าคลอดได้หลายครั้งแต่ต้องไม่เกิน 2 ครั้ง แต่ในกรณีที่หากผ่าเกินครั้งที่ 3 ขึ้นไปคุณแม่จะเริ่มมีความเสี่ยงในการผ่าตัดมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่มีการผ่าตัด จะมีพังผืดเป็นแผลเป็นเกิดขึ้นที่อวัยวะภายในนั่นเอง โดยพังผืดนี้จะดึงรั้งอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้กับมดลูกเข้ามาใกล้เมื่อมีการผ่าตัด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะผ่าตัดโดนอวัยวะข้างเคียงมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยอวัยวะที่เสี่ยงต่อการผ่าตัดไปโดน ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ และระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่อาจเป็นอันตรายอย่างมากในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรมีการผ่าคลอดเกิน 2 ครั้ง
ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ใครบ้างที่ไม่ควรผ่าคลอดเกิน 2 ครั้ง
เราได้ทราบกันไปแล้วว่าผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ควรเกิน 2 ครั้ง เพราะหากเกิน 2 ครั้งจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่เองในอนาคตได้ หากถามว่าใครบ้างที่ไม่ควรผ่าคลอดเกิน 2 ครั้ง คนที่ไม่ควรผ่าคลอดเกิน 2 ครั้งมีดังนี้
- คุณแม่ที่เคยมีการผ่าคลอดมาแล้ว 2 ครั้ง แพทย์อาจจะมีวินิจฉัยว่าไม่สามารถทำการผ่าคลอดได้ เพราะอาจเสี่ยงเกิดอันตรายได้ จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณแม่จะต้องแจ้งข้อมูลจริงว่า ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง และผ่าคลอดมาแล้วกี่ครั้ง หากแพทย์วินิจฉัยว่าสามารถผ่าคลอดได้ ก็อาจจะมียังคงผ่าคลอดในครั้งที่ 3 ได้
- คุณแม่ที่เคยทำการผ่าตัด หรือคุณแม่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่ายกาย เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยง และมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากพบว่าสุขภาพไม่แข็งแรงพออาจจะไม่สามารถทำการผ่าคลอดเกิน 2 ครั้งได้ เพราะจริง ๆ แล้วผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ก็คือต้องไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น
หลังผ่าคลอด ควรเว้นระยะห่างการมีลูกนานเท่าไหร่
สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่เลือกใช้วิธีการคลอดลูกด้วยการผ่าคลอดลูกคนแรก หากต้องการที่จะมีลูกคนต่อไป ควรเว้นระยะห่างออกไปอย่างน้อยที่ 2 ปี เพื่อรอให้คุณแม่มีความพร้อมทางร่างกายมากขึ้น พร้อมกับมีความพร้อมในเรื่องของการการดูแลลูกน้อยมากขึ้นด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ต้องการที่จะมีลูกคนต่อไปสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นแนวทางการวางแผนการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยได้เลย
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ที่เคยผ่าคลอด และกำลังตั้งครรภ์ใหม่
คุณแม่ที่ไม่เคยมีการผ่าคลอดมาก่อนเมื่อต้องผ่าคลอดครั้งแรกอาจจะกังวล แผลผ่าคลอด หรือเกิดความกลัวอยู่บ้างเล็กน้อย จึงมีคำแนะนำสำหรับคุณแม่ที่กำลังจะผ่าคลอด หรือตั้งครรภ์ใหม่ดังนี้
1.การผ่าคลอดครั้งแรกของคุณแม่จะต้องเป็นแนวขวางเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงจะคุ้นเคยตากันมาบ้างแล้ว
2.คุณแม่ผ่าคลอดหลังจากที่ทำการผ่าคลอดเรียบร้อยแล้ว จะฟื้นตัวภายใน 12 ชั่วโมง และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 4 วัน เพื่อรอให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะช่วยเหลือตนเองได้ ในระหว่างพักฟื้นที่โรงพยาบาลจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดทุก ๆ 2 ชม. มีการวัดชีพจร และวัดความดันทุก 4 ชม. จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตราย
3.หลังจากออกจาก โรงพยาบาลแล้วคุณแม่ควรจะดูแลแผลผ่าตัดเป็นอย่างดี ห้ามโดนน้ำ และที่สำคัญก็คือจะต้องไม่ยกของหนัก หรือเกร็งหน้าท้อง เพราะอาจทำให้แผลผ่าตัดที่เป็นแผลสดมีโอกาสที่จะติดเชื้อ อักเสบ และปริได้นั่นเอง
การผ่าคลอดจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว หรืออันตรายแต่กลับเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่แพทย์ประเมินแล้วว่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับคุณแม่ได้ดีกว่าการคลอดเองแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นหากคุณแม่ท่านไหนที่กำลังจะผ่าคลอดให้ทำใจสบาย ๆ ได้เลย ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะการผ่าคลอดอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดนั่นเอง
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ