การเจาะน้ำคร่ำ คืออะไร
การเจาะน้ำคร่ำ เป็นการเจาะเอาน้ำคร่ำปริมาณเล็กน้อยออกมาจากถุงน้ำคร่ำที่ห่อหุ้มตัวเด็ก โดยการใช้หัวตรวจอัลตราซาวด์ควบคู่กับเข็มเจาะ ขนาดความยาว 3.5 นิ้ว เพื่อตรวจสภาพของทารกในครรภ์มารดา ตรวจหาโรคบางโรคที่สามารถติดต่อได้เฉพาะเพศชาย หรือเพศหญิงเท่านั้น เช่น โรคเลือดฮีโมฟีเลีย ที่จะพบในทารกเพศชาย และสามารถบอกเพศของทารก ได้อย่างแม่นยำ
การเจาะน้ำคร่ำ ยังช่วยในการค้นหาสารเคมีบางชนิด ที่บ่งบอกถึงสภาพของปอดของทารกได้ คุณแม่ที่เคยมีลูกซึ่งมีความผิดปกติของเอนไซม์ซึ่งสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรมหรือเรียกว่า “Inborn Error of Metabolism” การเจาะตรวจน้ำคร่ำ จะช่วยหาทางเตรียมการในการดูแลรักษาในช่วงแรกคลอดได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนการตรวจหาสารประกอบน้ำดี ที่อยู่ในน้ำคร่ำนั้นจะเป็นตัวช่วยในการค้นหาว่า ทารกมีปัญหาเรื่องเลือดของลูกกับแม่ไม่เข้ากันหรือไม่ นอกจากนี้ การเจาะตรวจน้ำคร่ำในทางการแพทย์ยังมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการตรวจหาโรคที่มีความผิดของกระบวนการดูดซึมและเสริมสร้างร่างกายของทารก รวมไปจนถึงการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอ และโอกาสในการติดเชื้อของทารก
ข้อบ่งชี้อะไรบ้างที่ทำให้คุณแม่ต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก โดยมีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- คุณแม่เคยมีประวัติคลอดบุตรที่มีโครโมโซมผิดปกติ จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- คุณแม่ที่มีผลการตรวจเลือดพบว่าผิดปกติ จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- คุณแม่มีประวัติแท้งบ่อย จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- แพทย์ตรวจพบความพิการภายนอกของทารก จากการตรวจอัลตราซาวด์ จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
- ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าผิดปกติ จำเป็นต้องรับการตรวจโดยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ
การเจาะน้ำคร่ำ มักจะทำที่อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ เนื่องจากสามารถคลำมดลูกได้ทางหน้าท้องชัดเจน และมีปริมาณน้ำคร่ำไม่น้อยเกินไป ผลที่ได้ค่อนข้างแม่นยำ และที่สำคัญการเจาะน้ำคร่ำในช่วงอายุครรภ์นี้ ไม่มีผลทำให้ความดันภายในถุงน้ำคร่ำเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ