สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะแพ้ท้องในช่วง 3 เดือนแรก อาการรุนแรงมากน้อยแล้วแต่บุคคล ที่เป็นกันมากมักมีดังนี้ คลื่นไส้อาเจียนตอนเช้า ๆ หรือตอนกลางวัน อ่อนเพลียหรือเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ซึ่งถ้าปล่อยให้อาการเหล่านี้เป็นมากเป็นบ่อย อาจส่งผลกระทบถึงทารกที่กำลังจะคลอด ลูกออกมาตัวอาจเล็กและเป็นโรคขาดสารอาหารได้ หรืออาจจะคลอดออกมาก่อนกำหนด คุณแม่จึงควรดูแลสุขภาพของตัวเองและพยายามสู้กับอาการแพ้ท้อง ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ได้ผลดีลองนำไปใช้กันนะคะ..
คำแนะนำเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้อง
- คุณแม่ต้องพยายามอย่าให้ท้องว่าง ควรทานอาหารอยู่เสมอ แต่ทานทีละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ หรือมีลูกอมเปรี้ยวหวานไว้ติดตัว ตอนเช้าควรดื่มนมอุ่น ๆ หรือน้ำสุกอุ่น ๆ ให้ระมัดระวังควบคุมอารมณ์อย่าให้ฟุ้งซ่าน
- คิดไว้เสมอว่าในท้องของเรายังมีอีกชีวิตหนึ่งที่สามารถรับรู้ทุกสิ่งอย่างที่แม่ของเขาได้รับ หากมีอาการคลื่นไส้และวิงเวียนมากควรละลายยาหอมสำหรับสตรีมีครรภ์เพื่อแก้อาเจียน หรือกินวิตามินบำรุงจำพวกวิตามินรวม วิตามินบี 12 และบี 1 แต่ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ
- นอกจากยาหอมแล้ว ถ้าอาเจียนมากอาจจะกินน้ำมะพร้าวอ่อน หรือ น้ำอินทผลัม ก็ได้ ความหวานหอมของน้ำมะพร้าวและน้ำอินทผลัมจะไปช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องและอาเจียนให้ดีขึ้น นอกจากนี้ประโยชน์ของน้ำอินทผลัม ยังช่วยให้คุณแม่มีเรี่ยวมีแรงดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
- คุณแม่ควรกินอาหารว่างที่มีโปรตีนสูง งดอาหารที่มีไขมันหรือใยอาหารสูง อย่าให้ท้องว่างเพราะท้องว่างจะทำให้เกิดคลื่นไส้อาเจียน หลีกเลี่ยงกลิ่นฉุนๆ หากดื่มน้ำขิงได้ก็อาจจะบรรเทาอาการได้ดียิ่งขึ้นค่ะ แต่ถ้ามีอาการมากน้ำหนักตัวลดมาก แพทย์จะให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียนและต้องนอน รพ.เพื่อให้น้ำเกลือแทนอาหารไปจนกว่าคุณแม่จะดีขึ้น
- สำหรับคุณแม่ท่านใดที่มีอาการแพ้ท้องไม่มาก นั่นถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐเลยค่ะ คุณแม่ก็ดูแลตัวเองแบบสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลใด ๆ เลยค่ะ เดี๋ยวอาการแพ้ท้องก็จะผ่านไป หลังจากอาการแพ้ท้องดีขึ้นหรือหายแพ้ท้องแล้ว คุณแม่ต้องทานมาก ๆ ชดเชยช่วงเวลาที่แพ้ท้องและทานไม่ได้ เพื่อบำรุงเจ้าตัวเล็กในครรภ์ให้สมบูรณ์
อย่าลืมนะคะว่าเรามีคนอีกหนึ่งคนในร่างกายเรา ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์เป็น 2 เท่าจากที่เคยทาน เพื่อบำรุงสมองและร่างกายของลูกและตัวเราเองค่ะ สู้ ๆ นะคะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ