เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์จะได้รับยาบำรุงต่าง ๆ หลายตัวเพื่อบำรุงร่างกายของคุณแม่เองและลูกในครรภ์ คุณหมอที่คุณแม่ไปฝากครรภ์ด้วยก็จะให้ยาบำรุง และพวกวิตามิน ตามช่วงอายุครรภ์ของคุณแม่ให้เหมาะสม
ยาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องกินเพื่อบำรุงร่างกายแม่และลูกในครรภ์มีอะไรบ้าง
1. กรดโฟลิก หรือ โฟเลต
กรดโฟลิก หรือ โฟเลต เป็นยาที่ช่วยลดความเสี่ยงในเด็กที่จะเกิดอาการผิดปกติทางร่างกาย เช่น ป้องกันเด็กพิการแต่กำเนิด โดยเฉพาะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะเป็นสารสำคัญที่ช่วยในการสร้างพันธุกรรม RNA และ DNA ทำงานร่วมกับ vitamin B12 ในการสร้างเม็ดเลือดแดง สำคัญกับคุณแม่และทารกในครรภ์มาก ๆ ค่ะ
2. ธาตุเหล็กและวิตามินซี
ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารที่คุณแม่ต้องทานตลอดการตั้งครรภ์ เพราะสารอาหารธาตุเหล็กนี้จะเป็นตัวไปสร้างออกซิเจนให้ไหลเวียนในเลือดได้ดี ถ้าคุณแม่ขาดธาตุเหล็กจะทำให้คุณแม่เป็นโรคโลหิตจางหลังคลอดลูก ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่แล้วในร่างกายของคนเราอยู่ในเม็ดเลือดแดง เด็กทารกที่คลอดออกมาก็ไม่ควรปล่อยให้ขาดธาตุเหล็ก เพราะจะทำให้ส่งผลกระทบถึงการเจริญเติบโตของสมองทำให้ไอคิวลูกลดลง 5-10 % และยังไม่สามารถมากินในภายหลังได้ เพราะฉะนั้นธาตุเหล็กจึงนับว่ามีความสำคัญมากค่ะ
3. วิตามินรวม
เป็นวิตามินที่ทำขึ้นสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ เพราะจะรวมวิตามินที่สำคัญไว้อย่างเช่น กรดโฟลิค ธาตุเหล็ก คุณแม่ต้องสอบถามคุณหมอว่าเป็นวิตามินแบบไหน เพราะบางโรงพยาบาลจะจัดวิตามินชนิดนี้ให้คุณแม่ทานเสริมด้วยค่ะ
4. แคลเซียม
เมื่อไปฝากครรภ์ คุณหมอจะให้แคลเซียมกับคุณแม่ทานด้วย เนื่องจากแคลเซียมเป็นสารที่สำคัญมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะลูกต้องนำไปสร้างกระดูก ฟัน และเล็บ
แต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการเจ็บป่วย สามารถดูแลร่างกายได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งยาดังนี้
เป็นหวัด – คุณแม่ควรดื่มน้ำให้มากกว่าเดิม 8-10 แก้ว
เจ็บคอ – ให้ทานน้ำอุ่นบ่อย ๆ สามารถช่วยได้ค่ะ
ปวดหลัง – แนะนำให้อาบน้ำอุ่น หรือนวดเบา ๆ ค่ะ
เป็นไข้ – แนะนำให้เช็ดตัว แทนการอาบน้ำ ให้ใช้น้ำเย็นอาการตัวร้อนจะดีขึ้นมากค่ะ
ยาบำรุงครรภ์ ที่คุณหมอสั่งให้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณแม่และลูกในครรภ์มากค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรทานยาให้ถูกวิธีและครบตามที่คุณหมอสั่งนะคะ แต่ถ้าหากคุณแม่ลืมทานยามื้อใด ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ คุณแม่สามารถทานต่อได้เลยไม่มีปัญหาค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ