ประจำเดือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องมี และแน่นอนเลยว่าสิ่งที่ทุกคนจะต้องเผชิญเมื่อมีประจำเดือนนั่นก็คืออาการ ปวดท้องประจำเดือน ซึ่งอาการปวดโดยส่วนใหญ่นั้นก็จะมีลักษณะการปวดที่มีทั้งปวดร้าวไปหลัง ปวดก้นกบ ปวดหน้าขา ซึ่งอาการปวดประจำเดือนของแต่ละคนนั้นอาจจะมีความแตกต่างกันออกไป บางคนเมื่อมีประจำเดือนอาจจะไม่ได้มีแค่อาการปวดประจำเดือนเท่านั้น แต่ยังมีไข้ทับระดู เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นโรคที่น่ากังวลไม่น้อยเลยทีเดียว หลายคนอาจจะยังไม่เคยเจอปัญหานี้เมื่อมีประจำเดือน แต่เราก็ไม่อยากให้คุณมองข้าม เลยได้มีการรวบรวมเรื่องของ ไข้ทับระดู มาฝาก ไม่ว่าจะเป็น อาการ วิธีการดูแล และการป้องกันไม่ให้เกิดโรค จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยดีกว่า
ไข้ทับระดู คืออะไร
ไข้ทับระดูคืออาการป่วยของผู้หญิงที่มักเกิดขึ้นร่วมกับการมีประจำเดือน เนื่องจากช่วงที่มีประจำเดือนของผู้หญิงนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ภูมต้านทานของร่างกายลดลงทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง จึงทำให้เกิด ไข้ทับระดู ได้ง่าย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคนและได้เกิดขึ้นทุก ๆ เดือน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้จนเกินไปเมื่อมีประจำเดือน แต่ก็ควรพึงระวังไว้ทุกครั้งโดยการสำรวจร่างกายตนเองว่าระหว่างที่มีประจำเดือนนั้นมีอาการผิดปกติหรือไม่ ซึ่งอาการของโรคนี้ก็จะมีอาการเด่นชัดคล้ายกับอาการไม่สบายโดยทั่วไป ทำให้สามารถสังเกตได้ง่าย
อาการไข้ทับระดู
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไข้ทับระดูนั้นสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบด้วยกัน คือ ไข้ทับระดู ที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง และไข้ทับระดู ที่มีสภาวะโรคแอบแฝง แต่โดยรวมของอาการก็จะมีลักษณะที่คล้ายกันดังนี้
- มีไข้ขึ้นสูง หนาวสั่น มีอาการปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับมีอาการปวดท้องน้อย ซึ่งกรปวดท้องหรือ ปวดท้องเมนส์ อาจจะปวดได้ทั้ง 1 หรือ 2 ข้าง
- มีประจำเดือนมากผิดปกติ ร่วมกับมีกลิ่นเหม็นซึ่งอาการนี้อาจจะไม่มีในแบบของสภาวะอื่นแอบแฝง และนอกจากนี้ก็อาจจะมีตกขาวปนหนองออกมาระหว่างที่มีประจำเดือน
- มักจะมีอาการเจ็บลึก ๆ ขณะมีเพศสัมพันธ์ และมีเลือด
วิธีการดูแลรักษา บรรเทาอาการป่วย
บางครั้งเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเดือนไหนบ้างที่เราจะต้องมีอาการป่วยเป็นไข้ทับระดู เพราะอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกเดือนและไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เพราะฉะนั้นการทำความข้าใจเกี่ยวกับโรคจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพื่อจะได้นำมาดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยวิธีการดูแลรักษา บรรเทาอาการป่วยสามารถทำได้ดังนี้
- หากสังเกตเห็นว่าร่างกายมีความผิดปกติเมื่อมีประจำเดือนนั่นอาจแสดงให้เห็นได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นไข้ทับระดู อยู่ก็ได้ ฉะนั้นหากเมื่อไหร่ที่มีไข้สูง มีลักษณะของเลือดที่ออกมาผิดปกติให้พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคทันที เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และไม่เสี่ยวต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอีกด้วย
- พักผ่อนให้เพียงพอ ด้วยการนอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพราะหากไม่พักผ่อนให้เพียงพอภูมิต้านทานของร่างกายอาจจะลดลง ทำให้อ่อนเพลีย และอาจะเกิดอาการป่วยเรื้อรังได้
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย และอาจทำให้อาการหายช้า หรืออาจจะมีอาการป่วยที่หนักกว่าเดิมก็เป็นไปได้
- ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบแก้ปวด การใช้กระเป๋าน้ำร้อนเพื่อประคบแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง อาการปวดหลัง และการปวดของกล้ามเนื้อได้ ทั้งยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย โดยการประคบน้ำร้อนนั้นแนะนำให้ประคบบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง ประมาณ 15 นาที และเมื่อไหร่ที่มีอาการปวดก็สามารถทำได้เรื่อย ๆ
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจากอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เพราะระหว่างที่กำลังมีประจำเดือนอยู่นั้นปากมดลูกจะเปิด ซึ่งเลือดถือเป็นอาหารชั้นดีที่จะทำให้เชื้อแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้ดี และเมื่อเกิดการติดเชื้อจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย
ป้องกันโรคไข้ทับระดูได้หรือไม่ อย่างไร
ไข้ทับระดูเป็นโรคที่เราสามารถป้องกันได้ ซึ่งมีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระหว่างเป็นประจำเดือนง่าย ๆ คือ คุณจะต้องรู้จักดูแลตนเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องของสุขอนามัยของร่างกายให้มีความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือนนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เนื่องจากช่วงที่มีประจำเดือนเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ และที่สำคัญคือควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการป่วยได้ง่ายนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยระหว่างมีประจำเดือน ดังนั้นเมื่อได้รู้กันไปแล้วว่าอาการของโรคนั้นเป็นอย่างไร ทุกคนก็ควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองระหว่างมีประจำเดือนให้ดี และหากรู้สึกได้ว่าร่างกายมีความผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยของอาการป่วยทันที เพื่อจะได้รับการรักษาได้อย่างท่วงทันและเหมาะสมแต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีอาการป่วยไม่ต้องกังวลจนเกินไป ควรพักผ่อนให้เพียงพอและทำจิตใจให้ผ่อนคลาย จะช่วยให้อาการป่วยหายเร็วแน่นอน
เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ