โรคหวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่และเมื่อไหร่ที่เริ่มจะมีอาการเป็นหวัด ก็จะรู้สึกคัดจมูกและจะต้องหายามาทานโดยเร็วที่สุดเพื่อหวังจะให้น้ำมูกนั้นหายได้อย่างรวดเร็ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีวิธีแก้หวัดและ วิธีลดน้ำมูก ที่ได้ผลดีที่สุด คือการดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับพักผ่อน เพราะโรคหวัดไม่มียาที่ใช้ฆ่าเชื้อไวรัสแบบเฉพาะเจาะจง และส่วนใหญ่แล้วอาการหวัดมักจะดีขึ้นภายในประมาณ 7-10 วัน
แนะนำ 6 วิธีลดน้ำมูก ที่ได้ผลจริง
โดยปกติแล้วโรคหวัดจะหายได้ด้วยการดูแลตัวเองและไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะใดๆ เพราะโรคหวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสจึงไม่สามารถใช้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อได้โดยตรง นอกจากนี้อาการของหวัดพบได้มากที่สุดเลยคือมีน้ำมูก ในวันนี้เราก็จะมาบอกวิธีลดน้ำมูกและช่วยให้อาการของโรคหวัดนี้ดีขึ้นได้
1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของเราได้ฟื้นฟู และสามารถที่จะกำจัดเชื้อไวรัสออกไปจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและจะต้องห่มผ้าเพื่อให้ร่างกายมีความอบอุ่น ทั้งนี้ คุณอาจจะต้องนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ในช่วงนี้ก็ควรงดกิจกรรมที่ต้องใช้พละกำลังลังรวมถึงงดการออกกำลังกายหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
คุณสามารถที่จะดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและเป็น วิธีลดน้ำมูก ป้องกันการขาดน้ำในตอนที่ไม่สบาย โดยอาจจะดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ อย่างเช่น น้ำผึ้งผสมมะนาว น้ำซุป หรือพวกชาสมุนไพรต่างๆ แต่ในกรณีที่ ผู้ป่วยเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนก็ให้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวส่วนเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนก็อาจจะให้ลูกจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียออกไป นอกจากนี้คุณหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัดๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการขาดน้ำได้
3.สั่งน้ำมูกออก
หลายคนเคยชินกับการสูดน้ำมูกเขาเมื่อรู้สึกว่าน้ำมูกกำลังจะไหลออกมา ซึ่งความจริงแล้ววิธีลดน้ำมูก คุณควรที่จะต้องสั่งน้ำมูกออกเพื่อกำจัดน้ำมูกที่ค้างอยู่ในทางเดินหายใจ อาจจะลองสั่งน้ำมูกออกทางรูจมูกทีละข้างโดยใช้นิ้วปิดรูข้างนึงไว้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้น้ำมูกไหลออกมาได้ดียิ่งขึ้น แต่คุณไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆเพราะอาจจะทำให้หูอื้อปวดหู หรือเกิดอาการอักเสบในหูได้
4.สูดไอน้ำ
การสูดไอน้ำเป็นวิธีลดน้ำมูกและแก้หวัด เนื่องจากไอน้ำร้อนจะทำให้เยื่อบุจมูกหดตัวลง ทำให้จมูกโล่งขึ้นแถมยังทำให้ลำคอชุ่มชื้นหายใจได้อย่างสะดวก
5.เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
หากในห้องมีอากาศแห้งก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกระคายคอได้ง่าย ซึ่งคุณควรจะใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อช่วยให้อากาศในห้องหรือในบ้านของคุณนั้นชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้
6.รับประทานยา
ถึงแม้ว่าโรคหวัดจะไม่มียาที่รักษาได้โดยตรงแต่การรับประทานยาตามอาการก็จะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ เช่น ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดลดไข้ ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก เป็นต้น
สมุนไพรแก้หวัดคัดจมูกที่ต้องลอง
โรคหวัดเป็นโรคที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ และเมื่อเป็นแล้วก็มักจะมีอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลตามมาสร้างความรำคาญกันตลอดทั้งวัน ใครที่กำลังเจอเหตุการณ์นี้วันนี้เรามาบรรเทาอาการด้วยสมุนไพรกันดีกว่า
- หอมแดง มีสรรพคุณที่ช่วยป้องกันโรคหวัดและบรรเทาอาการคัดจมูกได้ แต่ถ้าหากพบว่ายังไม่หายดีก็ใช้หอมแดงเล็กประมาณ 4-5 หัวทุบพอแตกนำไปต้มกับน้ำสะอาดให้เดือด จากนั้นเทลงชามใบใหญ่และก้มหน้าลงไปเพื่อสูดดมไอระเหยจากนำหอมแดง เป็นวิธีลดน้ำมูกที่ใช้ได้ผลดีเลยทีเดียว
- ทุบตะไคร้ 3-4 ต้นให้แตกนำมาต้มกับน้ำเปล่า แนะนำให้จิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวันเพราะตะไคร้เป็นสมุนไพรแก้คัดจมูกได้ดี
- ขิงแก่ 1 แง่ง นำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วต้มกับน้ำเปล่า จากนั้นก็เอาแต่น้ำขิงมาดื่มขณะอุ่นอุ่นๆ โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ววันละ 3 เวลาจะช่วยลดน้ำมูกได้
- กระเทียม เป็นสมุนไพรกลิ่นฉุนที่แก้คัดจมูกได้ดี เพียงแค่นำกระเทียมมาประกอบอาหารกับเมนูทั่วไปหรือกินแบบสดๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก
- พริก ให้คนนำต้นพริกยกเว้นเมล็ดพริกมาล้าง น้ำให้สะอาด จากนั้นนำมาสับเป็นท่อนสั้นแล้วตากแดดจนแห้ง เมื่อแห้งแล้วก็นำมาต้มกับน้ำให้เดือด รินเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร โดยดื่มครั้งละ 1 แก้วช่วงเช้าและเย็น จะทำให้คุณหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
วิธีลดน้ำมูกและแก้หวัดที่ได้ผลดีมากที่สุดคือการดูแลตัวเองและพักผ่อนมากๆ ซึ่งจะต้องป้องกันการแพร่เชื้อโรคให้ผู้อื่นโดยการปิดปากและจมูกทุกครั้งเมื่อไอหรือจาม และต้องล้างมือก่อนหยิบจับสิ่งของต่างๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีสมุนไพรแก้หวัดคัดจมูกที่คุณต้องลองเพราะสมุนไพรไทยนั้น ต้องยอมรับเลยว่าดีจริงๆ
เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ