ขึ้นชื่อว่ามะเร็ง โรคร้ายที่ไม่ส่งผลดีต่อชีวิตของเราอย่างแน่นอน โดยทั่วไปแล้วเราจะคุ้นเคยกับเกิดโรคมะเร็งที่ปอด ตับ ลำไส้ หรือเต้านม เป็นต้น ซึ่งแท้จริงแล้ว มะเร็งหัวใจ เป็นมะเร็งอีกหนึ่งประเภทที่รุนแรงไม่กัน แต่มีโอกาสพบได้น้อย ดังนั้นจึงมีแนวทางการรักษาที่จำกัด จากสถิตปัจจุบันพบผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งหัวใจอยู่ที่ 0.00002% ของประชากรทั่วโลก ถือว่ามีโอกาสเกิดน้อยมาก หรือแทบไม่มีโอกาสที่จะพบเลยก็ว่าได้
มะเร็งหัวใจ โรคนี้เกิดจากอะไร
สาเหตุของโรคมะเร็งหัวใจ ในปัจจุบันยังไม่ทราบและยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่ในทางการแพทย์สันนิษฐานว่า เกิดมาจากการแพร่กระจายของเนื้อร้ายในบริเวณใดบริเวณหนึ่งมาก่อนในร่างกายอยู่แล้ว จึงลามมาที่หัวใจ หรือเกิดจากการได้รับสารพิษ ซึ่งกระตุ้นให้ร่ายกายสร้างเซลล์มะเร็งขึ้น ในพื้นที่ใกล้เคียงหัวใจ เช่น ผนังหลอดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น และยังพบว่าโรคนี้มีโอกาสที่จะได้รับมาจากยีนส์หรือพันธุกรรมอีกด้วย
ชนิดของโรคมะเร็งหัวใจ
รู้กับชนิดของมะเร็งหัวใจ ที่แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่ มะเร็งหัวใจปฐมภูมิ (Primary cardiac cancer) และทุติยภูมิ (Secondary cardiac cancer หรือ Metastatic cardiac cancer) โดยแต่มีลักษณะและบริเวณที่เกิดเซลล์มะเร็งที่แตกต่างกัน ดังนี้
1.มะเร็งระยะปฐมภูมิ
ในระยะนี้เซลล์มะเร็งสามารถที่จะเกิดทุกบริเวณของหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อบุหัวใจ หลอดเลือด ลิ้นหัวใจ หรือในเนื้อเยื่อประสาท เนื้อเยื่อไขมัน เป็นต้น กลุ่มอาการที่พบได้แก่ มะเร็ง Angiosarcoma (เซลล์มะเร็งเกิดที่บริเวณหลอดเลือดในเนื้อเยื่อหัวใจ) , มะเร็งต่อมน้ำเหลือง , Rhabdomyosarcoma (มะเร็งในกล้ามเนื้อหัวใจ), Fibrosarcoma(มะเร็งในบริเวณเนื้อเยื่อพังผืด), Malignant schwannoma (มะเร็งในเนื้อเยื่อประสาท) และ Mesothelioma (มะเร็งในเยื่อหุ้มหัวใจ)
2.มะเร็งระยะทุติยภูมิ
เป็นระยะที่แพทย์พบในผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ปรากฏอาการหรือส่งสัญญาณใดๆ ในระยะนี้เซลล์มะเร็งจะถูกแพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น ซึ่งส่งผลให้หัวใจได้รับเซลล์ร้ายนั้นๆ มามะเร็งที่พบบ่อยในการแพร่กระจายมายังหัวใจ เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเต้านม เป็นต้น ในระยะนี้จะพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการแพร่ของเซลล์มะเร็งได้นั่นเอง
มะเร็งหัวใจ อาการเป็นอย่างไร
โรคมะเร็ง อาการส่วนใหญ่ มักเริ่มต้นที่ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนเพลีย มีไข้อ่อนๆ และน้ำหนักลงโดยไม่มีสาเหตุ หากใครมีอาการที่ว่ามานี้ ควรจะไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น ในโรคมะเร็งหัวใจอาการที่มีมักแสดงออกชัดเจน มีดังนี้
- เจ็บหน้าอก
- หายใจไม่เต็มปอด
- หัวใจเต้นผิดปกติ เช่น เต้นเร็วเกินไป เต้นช้าเกินไปหรือเต้นไม่ถูกจังหวะ เป็นต้น
- เหนื่อยหอบเป็นประจำ
- ไม่สามารถนอนราบไปกับพื้นได้
- หน้ามืด วิงวียน หมดสติ
- หัวใจวายเฉียบพลัน
วิธีการดูแลรักษาเมื่อป่วยด้วยโรคนี้
เมื่อเนื้อร้ายได้เกิดขึ้นมาบนร่างกาย แน่นอนว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันของเราไม่มากก็น้อย การเกิดโรคมะเร็งหัวใจ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นในทางปฏิบัติจึงไม่สามารถมีวิธีป้องกันได้อย่างตรงจุด แต่สามารถดูแลร่างกายเบื้องต้นได้ ดังนี้
- ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง อาการในระยะรุนแรง การรักษาด้วยวิธีทางเคมีเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง แต่จะเกิดผลข้างเคียงตามมาหลายอย่าง อาทิเช่น ผมร่วง ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด น้ำหนักลดและไม่อยากอาหาร ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนรอบข้างผู้ป่วยและตัวผู้ป่วยเอง จะต้องทำความเข้าใจกับอาการผิดปกติที่เกิดจากการบำบัด
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ในผู้ป่วยควรที่จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
- งดเครื่องดื่มกลุ่มแอลกอฮอล์ ชานมไข่มุก หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
- หากมี การผิดปกติ นอกจากอาการข้างเคียงที่แพทย์บอก เช่น มีไข้ ปวดท้องอย่างรุนแรง ต้องรีบพบแพทย์ทันที ไม่ควรหายารับประทานเอง เพราะอาจส่งผลต่อโรคมะเร็งหัวใจที่เป็นอยู่ได้
การป้องกันตนเองจากโรคร้าย
เพราะในปัจจุบัน สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เต็มไปด้วยมลภาวะที่เป็นภัยต่อร่างกาย อาทิเช่น ฝุ่น ควัน สภาพอากาศแปรปรวน และการบริโภคกลุ่มอาหารที่กระตุ้นในเกิดมะเร็ง อาทิเช่น ของมัน ของทอด เครื่องดื่มรสหวานจัด ชานมไข่มุก ปิ้งย่าง รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลอย่างหนัก หากทำเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้จะนำโรคร้ายมาสู่ร่างกายของเรา เพราะฉะนั้นแล้วหากต้องการมีสุขภาพที่ดี ต้องละเว้นปัจจัยกระตุ้นต่างๆ และสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือกิจกรรมเรียกเหงื่อ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเต้น การเล่นเวท เป็นต้น
มะเร็งหัวใจ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเกิดน้อยหรือแถบไม่มีโอกาสเกิดเลย แต่การดูแลสุขภาพให้ห่างใกล้จากโรคนี้เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะกลุ่มของโรคมะเร็ง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะแพร่กระจายและลุกลามไปส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราในระยะยาว แน่นอนว่าปัจจุบันการรักษาด้วยเคมีบำบัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทำให้มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นตามมา และหากก้าวเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค แน่นอนว่าไม่มียาและทางรักษาให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติ ในทางร้ายแรงที่สุด ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบ ที่ทุกคนควรเฝ้าระวัง เพื่อสุขภาพระยะยาวที่ปราศจากโรคร้าย
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ