fbpx
Homeการเลี้ยงลูกการดูแลสุขภาพเด็กทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ผิดปกติหรือเปล่า อย่างนี้ต้องเช็กด่วน       

ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ผิดปกติหรือเปล่า อย่างนี้ต้องเช็กด่วน       

การเลี้ยงดูเด็กทารก อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเด็กแรกเกิดจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ซึ่งแน่นอนว่า หากคุณพ่อ คุณแม่คนไหนที่เป็นมือใหม่ก็อาจที่จะต้องเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กทารกอย่างดีเลย ศึกษาอาการและการแสดงออกในแต่ละครั้งของเด็ก เช่น เด็กร้องไห้แต่ละครั้ง หมายถึงอะไร หรือแม้กระทั้ง ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากอะไร ลูกของคุณมีความผิดปกติในร่างกายหรือไม่ เรื่องแบบนี้คนเป็นพ่อแม่จะต้องสังเกตุและทำความเข้าใจให้ดีที่สุดเลย

ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว เพราะอะไรมาดูสาเหตุ

ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยวเกิดจากอะไร เรามาหาสาเหตุที่เกิดขึ้นกันดีกว่า ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กรดในนมที่ติดค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้ ลักษณะอุจจาระทารก มีกลิ่นที่ผิดปกติ มีความนิ่ม ซึมลงผ้าอ้อมได้เป็นอย่างดี กลิ่นจะเหม็นไม่มากเท่าไหร่ สีเหมือนฟักทอง หรือสีออกเขียว ๆ ก็ได้ ในเด็กทารกบางคน ซึ่งแน่นอนว่าสาเหตุการเกิดอาการนี้ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน และจะเกิดขึ้นกับทารกที่ดื่มนมแม่อีกด้วย ซึ่งอาการที่เกิดขึ้น อาจเป็นเฉพาะในเด็กทารกทุกคน พ่อแม่อาจจะกังวลว่าลูกจะเป็นอันตรายหรือไม่ แต่จริง ๆ แล้วเป็นอาการปกติของเด็กเล็ก ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่ไว้วางใจอาการนี้ได้เลย นอกเสียจากว่า ลูกของคุณจะไม่ค่อยขับถ่าย อาจจะต้องให้เด็กรับประทานอาหารที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายเพิ่มไปอีกก็ได้

สังเกต อุจจาระทารกแบบไหนที่ไม่ปกติ

ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยวและมีสีเหลือง เป็นอาการที่ปกติ แต่สำหรับ ลักษณะอุจจาระทารก ที่มีลักษณะที่แตกต่างออกไปจากที่เราแนะนำ แน่นอนว่าอาจเป็นความผิดปกติก็ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตลูกน้อยของคุณให้ดีว่า เด็กถ่ายออกมามีลักษณะแบบไหน ผิดปกติหรือไม่ หากเกิดลักษณะดังนี้

1.อุจจาระมีสีขาว

แน่นอนว่าเด็กทารกเป็นวัยที่อุจจาระบ่อย มีสีและลักษณะที่นิ่มเป็นเรื่องปกติ แต่หากอุจจาระเกิดมีสีขาว คือความผิดปกติของน้ำย่อยและถุงน้ำดี ดังนั้นพ่อแม่ทั้งหลายอาจจะต้องให้ลูกของคุณพบแพทย์โดยด่วน เพราะเด็กอาจมีปัญหาในเรื่องของระบบขับถ่ายอย่างแน่นอน ซึ่งอันตรายมากเลย

2.อุจจาระเหลว

อย่างที่ได้แนะนำไปว่า ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยวเป็นอาการที่ปกติ แต่หากทารกมีอาการของอุจจาระที่เหลว แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน เพราะเด็กอาจจะแพ้อาหารหรือมีอาการติดเชื้อ หากคุณแม่ปล่อยไว้แบบนี้ อาจทำให้ลูกของคุณเกิดภาวะขาดน้ำได้ รีบพบแพทย์โดยด่วนและอยากให้คุณแม่หรือผู้ปกครองปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารของเด็กทันที

3.มีมูกสีแดงปนมากับอุจจาระ

บางครั้งเด็กอาจได้รับสารอาหารที่มีสีแดงเข้าไปร่างกาย อาจทำให้เกิดเป็นอุจจาระที่มีสีแดงปนอยู่ด้วย แต่หากไม่เป็นแบบนั้น สีของอุจจาระอาจผิดปกติไปเลยก็ได้ เช่น เป็นมูกสีแดง นั่นหมายความว่า อาจเกิดจากอาการติดเชื้อ หรือแพ้โปรตีนที่อยู่ในนมแม่ ดังนั้นคุณแม่อาจจะต้องสังเกตลูกให้ดี หากเกิดอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

4.มีมูกติดปนมาด้วย

หากในอุจจาระของลูกคุณมีมูกขาว ๆ ติดปนมาด้วย นั่นหมายความว่า ลูกของคุณอาจเกิดอาการติดเชื้อก็ได้ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติในร่างกายของลูกน้อย ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่จะต้องสังเกตให้ดี หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าจะต้องเข้าไปรับการรักษาโดนด่วน

5.อุจจาระแข็งเป็นก้อน

นอกจากเด็กจะท้องเสียแล้ว ก็อาจเกิดเป็นอาการท้องผูกได้อีกด้วย ซึ่ง ลักษณะอุจจาระทารก จะมีลักษณะแข็ง เป็นก้อนเล็ก ๆ เนื่องจากรับประทานอาหารที่มีลักษณะแข็ง คุณแม่อาจจะต้องเปลี่ยนอาหารการกินของลูกอย่างเร่งด่วน และเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการของลูกคุณว่า ท้องผูกจากอะไรบ้าง

ดูแลอย่างไร หาก ทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ท้องเสีย

แน่นอนว่า ลูกของคุณอาจเกิดอาการทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ซึ่งเหมือนจะเป็นความผิดปกติ แต่ไม่เลย ไว้วางใจได้ แต่หากลูกของคุณไม่ใช้แค่การเกิดอุจจาระที่มีกลิ่น แต่เด็กกลับเป็นอาการท้องเสียที่ตามมาด้วย คุณพ่อ คุณแม่จะต้องทำอย่างไรบ้าง และเราจะมีวิธีการสังเกตอาการเหล่านี้อย่างไรบ้าง มาติดตามกันดีกว่า

  • ลูกของคุณมีอุจจาระที่เหลวผิดปกติ เป็นน้ำ
  • ลูกของคุณถ่ายบ่อย และถ่ายออกมาอาจมีกลิ่นที่ไม่ดี แต่ไม่ใช่อาการของทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว
  • อาจมีความผิดปกติในสีของอุจจาระด้วยก็ได้ เช่น สีที่เปลี่ยนไปจากเดิม มีมูก สีเขียว เป็นต้น
  • ลูกของคุณร้องไห้และมีอาการผิดปกติเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งหากคุณแม่ไม่มั่นใจว่า ลูกเป็นอะไร การพบแพทย์คือทางออกที่ดีที่สุด

การเป็นพ่อแม่จะต้องดูแลลูกที่เป็นเด็กทารกให้ดีและหมั่นสังเกตสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกของคุณให้ดี เช่นเดียวกับอาการของทารกอุจจาระเหม็นเปรี้ยว ที่พ่อแม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่หากได้สังเกตจะทราบได้เลยว่า ลูกของคุณเป็นอะไร เพราะเด็กในวัยนี้ไม่สามารถที่จะบอกหรือพูดความต้องการให้เรารับรู้ได้ ดังนั้นพ่อแม่อาจจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจในการเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด ว่าเด็กเป็นอะไรหรือต้องการอะไร

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular