อากาศที่แปรปรวนของโลกเราในทุกวันนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการที่ร้อยจัดจนทำให้เกิดภาวะฮีทสโตกขึ้น หรือ การเปลี่ยนแปลงของอากาศในแต่ละวันที่เดียวร้อน เดียวหนาวจนทำให้เกิดโรคภูมิแพ้อากาศขึ้น ยิ่งถ้าลูกแพ้อากาศก็จะนำความกังวลมาสู่คุณพ่อคุณแม่ได้ บทความนี้เราจึงขอพาคุณพ่อคุณแม่ไปพบกันว่า ลูกแพ้อากาศ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง มีอาการอย่างไร และ มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร
ลูกแพ้อากาศ เช็กสิมีสาเหตุมาจากอะไร
ลูกแพ้อากาศมีสาเหตุที่เกิดขึ้นได้หลากหลายทั้งส่วนของปัจจัยภายนอก และ ส่วนของปัจจัยภายร่างกายของลูกน้อยเอง โดยลูกแพ้อากาศมาจากสาเหตุดังนี้
1.กรรมพันธุ์
ยีนจากคุณพ่อคุณแม่จะถูกถ่ายทอดมาสู่ลูกน้อยได้ ยีนในที่นี่ก็รวมไปถึงยีนของความไวต่อการแพ้ ซึ่งร่วมถึงการแพ้อากาศด้วย
2.สัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงทั้งสุนัข แมว นก หรือแม้กระทั้งหนูตะเภาก็ล้วนมีขน หรือ เป็นพาหะที่ก่อให้เกิดการแพ้ในลูกน้อยได้ เมื่อลูกน้อยรับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้เข้าไปก็จะทำให้ภูมิต่ำจนเกิดการแพ้อากาศได้ในที่สุด
3.ฝุ่น
ละออง หรือ ฝุ่น เป็นสิ่งที่ปะปนอยู่ในอากาศ ในสภาวะที่มีฝุ่น หรือ ละอองฝอยที่ค่อนข้างเยอะก็ทำให้ร่างกายเกิดการตอบสนองด้วยการสร้างเยื่อเมือกมาจับเหล่าละอองฝอย หรือ ฝุ่นเอาไว้ เพื่อให้ไม่เกิดการแพร่กระจายของฝุ่น หรือ ละอองฝอยเหล่านั้นไปในระบบทางเดินหายใจ
4.ละอองฝอยจากหญ้า หรือ ดอกไม้
เมื่อมีการตัดหญ้าเราจะพบการฟุ้งกระจายของเศษหญ้า หรือ ในช่วงที่มีการเบ่งบานของดอกไม้ก็ทำให้เกิดละอองเกสรดอกไม้ปะปนออกมาได้ ในลูกน้อยที่ไวต่อสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดการแพ้ได้ จนนำไปสู่การที่ลูกแพ้อากาศ
5.ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับเด็กทั้งแชมพู ครีมนวด โลชั่นหรือกันแดด มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้อากาศ แต่ผลิตภัณฑ์ตัวร้ายที่มักทำให้ลูกน้อยเกิดการแพ้อากาศก็คือ แป้งฝุ่นที่ใช้สำหรับการทาผิว
6.ฝุ่น PM2.5
ในสภาวะปัจจุบันเราจะต้องเผชิญหน้ากับฝุ่นละอองโดยเฉพาะ PM 2.5 ที่ทั้งทำให้ลูกแพ้อากาศและทำให้ลูกน้อยเกิดอาการตาแดง คัน หรือ ระคายเคือง รวมไปถึงยังทำให้ลูกน้อยเกิดปัญหาร้ายแรงอย่างมะเร็งปอดตามมาได้
อาการแพ้อากาศในเด็ก เป็นอย่างไร
อาการลูกแพ้อากาศนั่นต้องอาศัยการสังเกตของคุณพ่อคุณแม่ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากข้อจำกัดในการสื่อสารหรือบรรยายอาการของลูกน้อยสู่คุณพ่อคุณแม่นั่นเอง โดยอาการที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้มีดังนี้
- อาการคัดจมูกโดยเริ่มจากการคัดจมูก มีอาการคันบริเวณจมูก จมูกมีความแดง และ ในเด็กบางคนก็มีน้ำมูกไหลออกมาด้วย
- อาการปรากฎบริเวณดวงตาโดยมีทั้งอาการระคายเคือง อาการคันซึ่งจะทำให้ลูกน้อยเกิดการขยี้ตาแล้วทำให้ตาแดง ตาบวม ตาช้ำ และมีน้ำตาไหลออกมาได้
- อาการไอ เนื่องจากระบบหายใจของเรามีส่วนเชื่อมโยงกับลำคอ เมื่อการแพ้อากาศเกิดในจมูกแล้วก็สามารถเกิดอาการปรากฎภายในลำคอได้ ในส่วนนี้ก็ทำให้เกิดทั้งอาการไอ อาการระคายเคืองคอ มีเสมหะ คันคอ รรวมถึงคอแดง
- อาการไข้ ในลูกแพ้อากาศบางรายจะเกิดการอักเสบร่วมด้วย ซึ่งการอักเสบนั้นก็คือ การเกิดไข้ขึ้นในร่างกาย
วิธีการดูแลรักษา เมื่อลูกแพ้อากาศ
เมื่อลูกน้อยของคุณเกิดอาการแพ้อากาศขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกน้อย ดังนี้
- จัดลูกน้อยให้อยู่ห่างจากสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยเกิดการแพ้อากาศ
- รักษาลูกน้อยตามอาการที่ปรากฎทั้งส่วนของการมีไข้ น้ำมูก หรือ น้ำตา ส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้ารับคำปรึกษาจาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ด้วย
- จัดให้ลูกน้อยอยู่ในท่าทางที่สบาย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่สบายเพื่อลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้อากาศที่เกิดขึ้น
ป้องกันลูกมีอาการแพ้อากาศได้อย่างไร
เราสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้อากาศได้ดังนี้
- การหลีกเลี่ยงจากสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้อากาศ
- การให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างถูกหลักโภชนาการ
- การหมั่นให้ลูกน้อยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การพาลูกน้อยเข้ารับวัคซีนตามที่แพทย์กำหนดในแต่ละช่วงวัย
- การดูแลรักษาความสะอาดทั้งเสื้อผ้าและสภาพแวดล้อมที่ลูกน้อยอยู่ รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์แบบแยกส่วนกับการเลี้ยงลูกน้อย
- การไม่พาลูกน้อยไปที่คนพลุกพล่านโดยไม่จำเป็น เพราะ ในช่วงอายุที่ยังเด็ก ภูมิคุ้มกันของลูกน้อยยังทำงานไม่เต็มที่ ส่วนนี้ก็มีผลให้ลูกน้อยสามารถแพ้อากาศได้ โดยสถานที่คนพลุกพล่านก็ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สวนสาธารณะ โรงพยาบาล หรือ การโดยสารรถประจำทาง
โรคภูมิแพ้อากาศไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับบุคคลใดก็ล้วนนำมาซึ่งความไม่สบายกาย และ ความไม่สบายใจด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งหากลูกแพ้อากาศด้วยแล้วก็ยิ่งนำความกังวลและความปวดใจมาให้กับคุณพ่อและคุณแม่ อย่างแรกเลยที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการตั้งสติ จากนั้นเลยก็เพียงนำคำแนะนำจากบทความข้างต้นไปใช้เพื่อให้ลูกน้อยมีอาการที่ดีขึ้น รวมไปถึงป้องกันลูกแพ้อากาศ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ