fbpx
Homeผู้หญิงบริจาคเลือด ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ใครที่สามารถบริจาคได้

บริจาคเลือด ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ใครที่สามารถบริจาคได้

แม้การบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจะเป็นเรื่องที่ดี และมีการรณรงค์ให้บริจาคกันมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันมีปัญหาการขาดแคลนเลือดในการรักษามาก แต่การบริจาคเลือดไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถทำได้ การบริจาคเลือดนั้นจำเป็นต้องได้เลือดที่ดี มีคุณภาพพอที่จะไปถึงผู้รับเลือด แล้วไม่เกิดอันตรายหรือโรคภัยตามมา ดังนั้น ใครที่มีแพลนจะ บริจาคเลือด ควรตรวจสอบก่อนว่าตนเองมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการบริจาคเลือดให้ผู้ป่วยหรือไม่        

เตรียมพร้อมอย่างไร ก่อนบริจาคเลือด

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนบริจาคเลือดเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เริ่มจากการนอนหลับให้เพียงพอในคืนก่อนวันบริจาค และดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะ 3-4 แก้วในช่วง 30 นาทีก่อนการบริจาค เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่คับจนเกินไปเพื่อความสะดวกระหว่างการบริจาค ควรรับประทานอาหารมื้อหนึ่งอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนการบริจาค และที่สำคัญคือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ตรวจสอบว่าตนเองไม่มีโรคหรืออยู่ในกลุ่มที่ไม่สามารถบริจาคได้ นอกจากการเตรียมร่างกายแล้ว การเตรียมใจก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้การบริจาคเลือดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ใครบ้างที่สามารถ บริจาคเลือดได้

การบริจาคเลือดเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถบริจาคเลือดได้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

  1. อายุ: โดยทั่วไปผู้บริจาคต้องมีอายุระหว่าง 17-70 ปี
  2. น้ำหนัก: ต้องมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 45-50 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
  3. สุขภาพ: ต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
  4. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง: เช่น การใช้สารเสพติด หรือมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย
  5. ไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  6. ไม่ได้รับการผ่าตัดใหญ่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
  7. ไม่ได้รับการสักหรือเจาะร่างกายในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมา
  8. มีระดับฮีโมโกลบินที่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือสถานพยาบาล ผู้ที่สนใจบริจาคเลือดควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริจาคเลือดโดยตรงเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน การบริจาคเลือดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถบริจาคได้ แต่ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นได้ผ่านการบริจาคเลือดนี้

อ่านเพิ่มเติม คุณสมบัติของผู้บริจาคเลือด

ข้อดีของการ บริจาคเลือด

การบริจาคเลือดเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อสังคม นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผู้บริจาคเองด้วย การบริจาคเลือดถือเป็นการส่งมอบโอกาสแห่งชีวิตให้กับผู้ที่ต้องการ เลือดที่บริจาคสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยในหลายกรณี เช่น ผู้ประสบอุบัติเหตุ ผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัด หรือผู้ที่มีภาวะเลือดออกรุนแรง นอกจากนี้ การบริจาคเลือดยังส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริจาคเอง โดยช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวพรรณดูสดใสขึ้น และอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม การบริจาคเลือดยังช่วยเร่งการทำงานของไขกระดูกในการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ดีต่อสุขภาพโดยรวม อีกประโยชน์หนึ่งของการบริจาคเลือดคือ การได้ตรวจสอบสุขภาพของตนเอง ก่อนการบริจาคทุกครั้ง ผู้บริจาคจะได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเช็คสภาพร่างกายของตนเอง นอกจากนี้ ผู้บริจาคยังจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับหมู่เลือดของตนเองอย่างละเอียด รวมถึงหมู่ Rh ซึ่งเป็นข้อมูลที่มักไม่ทราบในการตรวจสุขภาพทั่วไป ในบางประเทศ ผู้ที่บริจาคเลือดอย่างสม่ำเสมออาจได้รับสิทธิพิเศษทางการแพทย์ เช่น การได้รับบริการทางการแพทย์ฟรีหรือในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้บริจาค โดยสรุป การบริจาคเลือดไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้บริจาคเองด้วย จึงเป็นกิจกรรมที่ควรส่งเสริมและสนับสนุนในสังคม

วิธีการดูแลตัวเอง หลังพึ่งบริจาคเลือดมา

แม้ว่าการบริจาคเลือดจะเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย แต่การดูแลตนเองหลังบริจาคก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและสร้างเม็ดเลือดขึ้นมาทดแทนส่วนที่สูญเสียไป หลังจากบริจาคเลือดเสร็จ ผู้บริจาคควรนั่งพักสักครู่ก่อนเดินทางต่อ โดยทั่วไปแล้วควรพักอย่างน้อย 15 นาที ในระหว่างนี้ ควรดื่มน้ำและรับประทานอาหารว่างที่ทางสถานที่บริจาคจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อเป็นการชดเชยของเหลวและพลังงานที่สูญเสียไป ในวันที่บริจาคเลือด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือต้องใช้แรงมาก เช่น การใช้ลิฟท์หรือบันไดเลื่อน การทำงานกับเครื่องจักร หรือการปีนป่าย นอกจากนี้ ควรงดกิจกรรมทต้องใช้พลังงานมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหนัก ๆ การเดินป่า หรือแม้แต่การเข้าซาวน่า เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการรับประทานธาตุเหล็กเสริม ซึ่งมักจะได้รับแจกจากสถานที่บริจาคเลือด ควรรับประทานตามคำแนะนำ โดยทั่วไปมักจะเป็นวันละ 1 เม็ดจนหมด เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และทำให้การบริจาคเลือดเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ทั้งต่อผู้บริจาคและผู้รับบริจาค

 เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular