ความคาดหวังของครอบครัวเป็นสิ่งกดดันเด็กมากที่สุด เพราะเขาอยากทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเขาเอง ยิ่งคุณชื่นชมเด็กคนอื่นต่อหน้าลูกบ่อย ๆ หรือเขาบังเอิญได้ยินที่คุณพูดคุยกันแล้ว เขาจะเกิดความคิดว่าต้องเก่งเพื่อให้พ่อแม่ชื่นชมเหมือนเพื่อนคนนั้น ถ้าลูกน้อยของคุณรู้จักระบายความเครียดในรูปแบบอื่นอย่างถูกต้อง ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าเด็กที่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ มีหลายครั้งที่เด็กเหล่านี้เติบโตภายใต้ความกดดัน เมื่อถึงเส้นตายของระเบิดแล้ว ทุกอย่างพังพินาศทั้งความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และการใช้ชีวิตของเขาเอง
คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูกน้อยเสมอว่า เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหรือไม่ อาทิ ไม่ร่าเริง ไม่ค่อยพูดคุย นอนหลับยากขึ้น หรืออาจว่าไม่สบายทุกเช้าที่ต้องไปโรงเรียน ไม่อยากอาหาร ล้วนเป็นพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิม
เมื่อคุณทราบได้ว่าลูกน้อยเกิดความเครียดจากความกดดันแล้ว วิธีผ่อนคลายและให้เด็กทำความเข้าใจใหม่จะช่วยเหลือเขาได้มาก หรือร่วมทำกิจกรรมที่เขาชื่นชอบก็เป็นวิธีผ่อนคลายที่ง่ายอีกวิธีหนึ่ง
6 วิธีช่วยลูกจากความกดดันในครอบครัว
1.ทำความเข้าใจกับความเครียดของลูก โดยการพูดคุยและถามเขา ไม่บังคับให้พูดออกมา แต่ค่อย ๆ ให้เขาเปิดใจคุยกับคุณได้เอง
2.ให้ความสนใจกับสิ่งที่ลูกเล่าให้ฟัง เด็กเขาทราบได้ว่าคุณสนใจหรือไม่ แม้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็ทราบว่าคุณให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหน
3.ปล่อยให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือปล่อยให้เขาได้เล่นอย่างเต็มที่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมกับการเล่นของเขาได้ย่อมดีมาก
4.ฝึกให้ลูกรู้จักความเครียดและวิธีการรับมือ ผ่านประสบการณ์ของคุณและการเสริมแต่งอย่างเข้าใจง่าย
5.ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว อย่างการออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารร่วมกันอย่างน้อย 1 มื้อ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ได้ประโยชน์จากสารอาหารอย่างเต็มที่ และยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันในระหว่างมื้ออาหารอีกด้วย
6.ก่อนนอนอาจจัดกิจกรรม พุดคุยก่อนนอน โดยให้เขาได้เล่าเหตุการณ์ที่พบเจอมา หากเป็นปัญหาควรอธิบายให้เข้าใจ ถ้าเป็นสิ่งดีงามที่เขาได้ทำควรชื่นชม เพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกต่อไป
เด็กแต่ละคนมีความพึงพอใจกับกิจกรรมและความชื่นชอบแตกต่างกันไป ครอบครัวไม่ควรบังคับในสิ่งที่เด็กทำแล้วไม่มีความสุข แต่ควรสนับสนุนในสิ่งที่เขาชื่นชอบหรือให้กำลังใจมากกว่า เพราะกำลังใจจะสร้างแรงจูงใจให้เด็กได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่และไม่เป็นการสร้างแรงกดดันให้ตัวลูกเพิ่มขึ้นไปอีก
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : itsparenting.com