การมี เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ สามารถทำได้ตั้งแต่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์เดือนแรก ๆ จนถึงช่วงใกล้คลอด แต่การมี เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ก็มีข้อห้าม หรือสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่ด้วยเช่นกันดังนี้
5 ข้อควรระวังเมื่อจะมี เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์
1. ห้ามมีเพศสัมพันธ์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีเลือดออกทางช่องคลอด
คุณแม่บางคนเมื่อตั้งครรภ์อาจมีเลือดออกโดยเฉพาะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก สาเหตุที่เลือดออกมีหลายสาเหตุ เช่น รกลอกตัว รกเกาะตัวไม่แน่นพอ ถ้ามีอาการเหล่านี้จะเรียกว่าอยู่ในภาวะแท้งคุกคาม ดังนั้น จึงไม่ควรมีเพศสัมพันธ์หรือทำให้ร่างกาย กระทบกระเทือนมากเกินไปเพราะอาจจะเกิดการแท้งได้นั่นเองค่ะ
2.คุณแม่ท้องแก่หากมีเลือดออกให้หยุดทันที
สำหรับคุณแม่ที่ท้องแก่แล้ว เมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออก หรือมีเลือดทะลักออกมา อาจเกิดจากภาวะรกเกาะต่ำ ให้หยุดการมีเพศสัมพันธ์ทันที และควรรีบไปหาหมอเพื่อให้คุณหมอตรวจสอบอีกทีซึ่งหากเลือดออกจากภาวะรกเกาะต่ำจริงอาจต้องพิจารณาผ่าตัดคลอดทันทีไม่ว่าจะมีอายุครรภ์เท่าไหร่ และถ้าเสียเลือดมากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
3.คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ อย่างเช่นถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคความดันโลหิตสูง เมื่อมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เหนื่อยมาก อาจทำให้ชัก หรือ เส้นเลือดแตกในสมองได้ ดังนั้นถ้ามีโรคประจำตัวดังที่กล่าวมาควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนค่ะ
4. คุณแม่ที่ท้องแก่มากแล้วควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะการกระตุ้นจากการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้มดลูกบีบตัวและอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ แต่สำหรับคุณแม่ที่ครรภ์แก่มากจนเลยอายุครรภ์ไปแล้วยังไม่มีวีแววว่าจะมีการคลอดเกิดขึ้น สามารถกระตุ้นตัวเองให้การคลอดเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
5.ปวดท้องคลอดควรหยุดทันที
ถ้าขณะมีเพศสัมพันธ์มีน้ำเดินหรือปวดท้องคลอดให้หยุดมีเพศสัมพันธ์ทันที และหลังจากคลอดลูกแล้ว ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนประมาณ 6 สัปดาห์ค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถมีเพศสัมพันธ์จนถึงวันสุดท้ายของการตั้งครรภ์เลยก็ได้ ถ้าคุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี แต่ต้องคำนึงถึง ท่วงท่า และการใช้แรงในการมีเพศสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับขนาดท้องคุณแม่ด้วยนะคะ
Photo Cr:pregnancyandbaby.com
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ