อาการสมาธิสั้นของเด็ก เป็นเพียงการเสียความควบคุมตัวเองเพียงเล็กน้อยเช่น ทำงานไม่ค่อยสำเสร็จ หรือไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่านั้น สามารถรักษาได้ และอาจต้องใช้เวลาในการรักษาสักหน่อยเท่านั้นค่ะ วิธีการสังเกตว่าลูกของเราเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ง่าย ๆ ดังนี้
วิธีการสังเกตว่าลูกของเราเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือไม่
- ทำงานที่ครูหรือพ่อแม่สั่งไม่สำเร็จ
- ขาดสมาธิในการเล่น ในการเรียน หรือทำการบ้าน
- เมื่อมีกิจกรรมที่ต้องทำเหมือนไม่ตั้งใจฟัง เก็บรายละเอียดที่พ่อแม่หรือครูบอกไม่ค่อยได้
- ทำงานหรือการบ้านที่พ่อแม่หรือครูสั่งผิดพลาดบ่อย ๆ
- เป็นเด็กไม่มีระเบียบ
- ไม่ชอบงานที่ต้องใช้สมาธิ
- ทำของใช้ส่วนตัวหายบ่อย ๆ
- ขี้ลืม
- ซนตลอด ยุกยิก อยู่ไม่นิ่ง นั่งไม่ติด ลุกเดินบ่อย ๆ
- ชอบวิ่ง ปีนขึ้นบันไดหรือโซฟา
- ชอบเล่นเสียงดัง
- พูดมาก
- พูดแทรกโดยยังฟังไม่ทันจบ ชอบแทรกเวลาที่คนอื่นพูดเสมอ ๆ
- ไม่รู้จักการรอคอย
ถ้าลูก ๆ ของคุณมีอาการดังที่กล่าวมาสัก 6 อาการ แสดงว่าลูกมีความเสี่ยงที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้นค่ะ พ่อแม่หรือคุณครูสามารถช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ได้โดยจัดระบบกิจกรรมใหม่ให้เป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้
- หากิจกรรมให้ทำในแต่ละวัน สั่งงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำเป็นขั้นเป็นตอน
- ให้เด็กพูดทวนคำสั่ง
- จัดกิจกรรมในสถานที่เหมาะสม ไม่มีสิ่งรบกวนเช่น ในห้องรับแขกไม่ควรเปิดทีวีเพราะจะดึงสมาธิเด็กได้ค่ะ
- อย่าลงโทษลูกเมื่อลูกทำกิจกรรมที่ให้ทำผิดพลาด
- ควรชมเชยเมื่อลูกทำกิจกรรมนั้น ๆ สำเร็จ
- ถ้าอยู่โรงเรียนควรนั่งโต๊ะหน้า ๆ หรือใกล้ ๆ คุณครู อย่าให้นั่งใกล้หน้าต่างเด็ดขาด
- ควรสั่งการบ้านเด็กด้วยการเขียน เด็กจะได้จำได้ หรือ กลับมาบ้านยังมีพ่อแม่ช่วยอ่านให้ทำการบ้านได้สำเร็จ
- ถ้าเรียนอยู่แล้วเด็กเบื่อๆควรหากิจกรรมอย่างอื่นให้ทำแทนไปก่อน เช่น ลบกระดานดำ แจกหนังสือ แจกสมุดเพื่อน(ต้องเป็นคุณครูที่ใส่ใจเด็กด้านนี้เป็นพิเศษด้วยค่ะ)
เด็กที่สมาธิสั้นส่วนมากเกิดจากการเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัวว่ากิจกรรมในแต่ละวันเด็กทำอะไรบ้าง จะมีส่วนน้อยที่มีเด็กอาการสมาธิสั้นที่เกิดจากการเจ็บป่วย แต่อาการสมาธิสั้นไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง สามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ โดยพ่อแม่เป็นคนกำหนดการเลี้ยงดูให้กับลูกค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ