ฉีดวัคซีนอีสุกอีใส ให้ลูกดีไหม?
โรคอีสุกอีใสในเด็กนั้น จัดว่าเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงมากนัก เด็กที่เป็นอีสุกอีใสจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ขณะเดียวกันก็จะมีผื่นขึ้นทั่วร่างกายพร้อมๆ กับวันที่เริ่มมีไข้ หลังจากนั้นมาอีก 2-3 วันก็จะตกสะเก็ด
อีสุกอีใสในเด็กอาการจะไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ สามารถหายเองได้ โดยพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีไข้สูงใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ได้ แต่ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสมองและตับ ทำให้ถึงตายได้ ในขณะเดียวกันผื่นคันที่ขึ้นตามร่างกายไม่ควรไปแกะหรือเกานะคะ หากคันมากให้ทานยาคลอเฟนิรามีน บรรเทาอาการคันได้ค่ะ
[su_quote]ถึงแม้วิทยาการแพทย์ในปัจจุบัน จะสามารถค้นพบวัคซีนต้านโรคอีสุกอีใสได้แล้ว แต่เนื่องจากวัคซีนอีสุกอีใสมีราคาค่อนข้างสูง และจากรายงานทางระบาดวิทยาพบ ว่า 50 % ของอีสุกอีใสเป็นในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง จึงยังไม่กำหนดให้เป็น วัคซีนที่บังคับฉีดในเด็กไทย [/su_quote]
อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำว่า สำหรับเด็กไทยที่อายุอยู่ในช่วง 10-12 ปี ถ้ายังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ก็น่าจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เนื่องจากในวัยเด็กช่วง อายุ 1-12 ปี การสร้างภูมิต้านทานของร่างกายจะตอบสนองกับวัคซีนได้ดี การได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว ก็เพียงพอแล้ว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณแม่ไปได้อีกด้วยค่ะ
แต่สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปต้องได้รับวัคซีน 2 เข็มใน ระยะห่าง 4-8 สัปดาห์ จึงเพียงพอที่จะกระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานได้สูงพอที่จะป้องกันโรค ส่วนผู้ที่เคย เป็นอีสุกอีใสมาแล้ว จะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติอยู่แล้วไม่ต้องฉีดวัคซีนอีก
ในเด็กเล็ก กุมารแพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนชนิดนี้สักเท่าไหร่ แพทย์จะแนะนำว่าควรให้เด็กเป็น เพื่อที่จะมีภูมิต้านทานธรรมชาติ ซึ่งได้ผล 100% ประกอบกับวัคซีนยังมีราคาสูง และโรคนี้ก็ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงแต่อย่างใด แต่หากคุณพ่อคุณแม่มีกำลังทรัพย์ และต้องการฉีดเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ คุณหมอก็ไม่ห้ามค่ะ
บทความจาก : maerakluke.com