แค่รู้ว่าเป็นมะเร็งผู้ป่วยก็ทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว ยิ่งคุณผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกยิ่งมีความกังวลมากกว่าจุดอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่น่ากังวลเท่ากับการที่เป็น มะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์ เพราะการดูแลร่างกายจะเป็นเรื่องยากมากกว่าปกติหลายเท่า คุณแม่คงจะคิดถึงลูกในครรภ์ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ จะมีความเสี่ยงอะไรเกิดกับทารกในครรภ์ไหม และจะรักษาอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก แน่นอนค่ะ..
อาการมะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์
ลักษณะอาการคือจะมีเลือดออกตรงช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ มีตกขาวผิดปกติ เป็นหนองเหม็น ๆ เหมือนกลิ่นเน่าของเนื้อที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่กว่าจะรู้ว่าเป็นมะเร็งก็เข้าไปสู่ระยะที่ 3 แล้ว อาการต่อมา ถ้าก้อนมันใหญ่ขึ้นจนไปกดเบียดอวัยวะข้าง ๆ ก็จะมีอาการของทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ท้องผูก เมื่อมันลุกลามใหญ่ขึ้นก็จะรู้สึกปวด
อาการที่กล่าวมานี้จะพบเมื่อเป็นมะเร็งระยะที่ 3 กับ 4 แล้วค่ะ เพราะมะเร็งปากมดลูกไม่มีอาการเตือนหรืออาการเจ็บให้ทราบก่อน คุณแม่จะทราบก็ต่อเมื่อตรวจภายในอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากคุณแม่มีเลือดออกช่องคลอดขณะตั้งครรภ์คุณแม่ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจทันที
การรักษามะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์
ก็เหมือนการที่รักษาโรคมะเร็งทั่วไป เช่น ฉายแสง ใช้เคมีบำบัด ผ่าตัด แต่สำหรับ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วเป็นมะเร็งปากมดลูก ต้องคิดก่อนว่าจะรักษาอย่างไรไม่ให้กระทบกับทารกในครรภ์ และต้องรักษาช่วงไหนมะเร็งที่เป็นอยู่จึงจะไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิมค่ะ
การรักษาอาการนี้ในปัจจุบัน คุณหมอจะดูว่าคุณแม่มีอายุครรภ์เท่าไหร่ถ้าน้อยกว่า 16 สัปดาห์หรือประมาณ 4 เดือน คุณหมอจะทำการรักษาโดยทันที โดยไม่คำนึงถึงทารกในครรภ์ เพราะถ้ารอให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตมากกว่านี้จนถึงคลอด อาการนี้อาจจะลุกลามมากจนเป็นอันตรายกับคุณแม่และลูกในครรภ์จนเสียชีวิตได้ค่ะ การรักษาคือ ผ่าตัด ถ้าจะฉายแสงก็สามารถทำได้แต่คุณแม่เองก็ต้องทำใจนะคะ เพราะว่าการฉายแสงนั้นกระทบกับทารกในครรภ์แน่นอนค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์อีกทีค่ะ บางรายคุณหมอเห็นว่าควรยุติการตั้งครรภ์ก่อนทำการรักษามะเร็งก็มีค่ะ
[su_quote]สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากแล้วคุณหมอจะดูอาการเป็นราย ๆ ไปว่าสามารถเลื่อนไปจนกว่าจะถึงกำหนดคลอดได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะรอจนกว่าการคลอดจะดำเนินผ่านไปด้วยดี แล้วจึงจะทำการรักษาค่ะ[/su_quote]
ผลของการรักษาอาการ มะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์ จะเหมือนกับการรักษาตามปกติทุกอย่างค่ะ ความเสี่ยงเหมือนกัน อัตราการรอดชีวิตไม่แตกต่างกันมากค่ะ ผู้หญิงไทยมีการตรวจพบว่ามีอาการมะเร็งปากมดลูกสูงมาก ดังนั้นผู้หญิงที่มีความเสี่ยงทุกคนควรได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปี เพราะถ้าพบโรคตั้งแต่แรก ๆ ก็จะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและช่วยในการวางแผนการมีบุตรได้อีกทั้งยังสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้อีกด้วยค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ