fbpx
Homeการเลี้ยงลูกลูกชอบโกหก ควรสอนอย่างไรดี แนะนำวิธีรับมือแก้ไขที่ดีที่สุด

ลูกชอบโกหก ควรสอนอย่างไรดี แนะนำวิธีรับมือแก้ไขที่ดีที่สุด

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดหัวเสียทุกครั้ง หากรู้ว่าลูกโกหก พูดไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ชอบโกหกโยนความผิดให้กับคนอื่นไปเรื่อยๆ เพราะการโกหกเป็นพฤติกรรมที่คนเรามักจะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวโทษ หรือลงโทษ ซึ่งเด็กก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ แต่ถ้าลูกชอบโกหกบ่อยๆ ปล่อยไว้จะพัฒนาระดับความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ลูกมีพฤติกรรมชอบโกหก คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเขาอย่างไรดี วันนี้เรามีวิธีรับมือแก้ไข ลูกชอบโกหก ที่ดีที่สุดมาฝากคุณพ่อคุณแม่ รับมืออย่างไรให้ได้ผลดีมาดูคำตอบในบทความนี้กันเลยดีกว่า

ลูกชอบโกหก หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียอย่างไร

วิธีสอนลูกไม่ให้โกหก การโกหกไม่ใช่พฤติกรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่มาจากการเรียนรู้ และการซึมซับจากการเลี้ยงดูของครอบครัว และเรียนรู้จากกลุ่มเพื่อนๆ ในโรงเรียน ซึ่งเด็กแต่ละคนจะมีนิสัยโกหกที่แตกต่างกันออกไป ลูกชอบโกหกเป็นพฤติกรรมที่พบบ่อยในเด็กอายุประมาณ 4-7 ขวบ วัยนี้เด็กจะเริ่มเข้าใจการโกหกมากขึ้น โดยเฉพาะการโกหกเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องการบ้าน การโกหกถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และหากปล่อยให้เด็กโกหกบ่อยๆ โดยที่ผู้ใหญ่ไม่ตักเตือนคอยชี้แนะสิ่งที่ถูกต้อง และบอกถึงผลเสียที่จะตามมา ผลลัพธ์ก็คือ เด็กจะกลายเป็นเด็กที่ชอบโกหกเป็นนิสัย และมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น ทำลายข้าวของ ทำร้ายร่างกายคน และสัตว์ หรือเริ่มโกหกจนไม่รู้สึกผิด และพฤติกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน และการเข้าสังคมของเด็กในระยะยาวได้

วิธีรับมือแก้ไข เมื่อลูกชอบโกหก พูดไม่จริง

อย่างที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนทราบกันดีว่า พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีของลูก ลูกชอบโกหกเป็นพฤติกรรมจากการเรียนรู้ของคนใกล้ชิด โดยเฉพาะคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรพูดโกหก หรือปิดบังในสิ่งที่เด็กไม่รู้ ไม่อยากให้ ลูกชอบโกหก คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจ และสอนเด็กให้เข้าใจว่าโกหกจะเป็นนิสัยที่จะสร้างปัญหาให้กับตัวเอง และผู้อื่น เมื่อลูกชอบโกหก พูดไม่จริง รับมืออย่างไร เรามีวิธีรับมือง่ายๆ แต่ได้ผลดีมาฝากคุณพ่อคุณแม่ดังนี้

1.ให้โอกาสเด็กชี้แจง

หากพบว่าลูกพูดโกหก หรือไม่ตรงกับความเป็นจริง วิธีสอนลูกไม่ให้โกหก อย่าเพิ่งดุด่าว่ากล่าว หรือกล่าวหาว่าลูกเป็นเด็กชอบโกหก แต่ควรให้โอกาสลูกได้ชี้แจงว่าโกหกเพราะอะไร พร้อมทั้งสอนวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม ต่อไปลูกจะได้ไม่โกหกเพื่อหนีความผิดอีก

2.สอนลูกด้วยการยกตัวอย่างเป็นรูปธรรม

หากพบว่าลูกโกหกในเรื่องใด คุณแม่ควรบอกเหตุและผลที่จะตามมาให้ลูกได้เข้าใจตามวัยของลูกยกตัวอย่างเช่น หากลูกวัย 5 ขวบทำแก้วแตก แล้วบอกไม่ได้ทำ ต้องยกตัวอย่างเป็นรูปธรรมให้เด็กได้เข้าใจถึงผลเสียที่จะตามมาเช่น “ถ้าลูกทำแก้วแตกจะต้องบอกแม่ อย่าปิดบังไว้ แม่จะได้เก็บกวาดให้เรียบร้อย เพราะถ้าคนอื่นไม่รู้เดินไปแล้วถูกแก้วบาดเป็นแผลเลือดไหลจะไม่ดี” เป็นต้น

3.ไม่พูดว่าลูกเป็นเด็กขี้โกหก

ลูกชอบโกหก เพราะกลัวว่าถ้าพูดความจริงไปแล้วจะโดนพ่อแม่ดุด่าว่ากล่าว และยิ่งคุณแม่ไปดุด่า และกล่าวหาว่าเขาเป็นเด็กขี้โกหก เด็กเลี้ยงแกะ จะยิ่งทำให้ลูกฝังใจ และไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับพ่อแม่เพราะกลัวว่าจะโดนดุ หรือกล่าวหาว่าเป็นเด็กขี้โกหก คุณแม่จะต้องเชื่อมั่นในตัวลูก และให้โอกาสลูกได้ยอมรับคำโกหกอย่างกล้าหาญ พร้อมกับสอนลูกไม่ให้โกหก แต่ให้พูดความจริง กล้าที่จะยอมรับความผิดอย่างกล้าหาญ

4.สอนให้ลูกรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

หากคุณแม่สอนลูกบ่อยๆ ว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ ให้เขาได้รู้ถึงเรื่องผิดชอบชั่วดี หากพบว่าลูกชอบโกหก คุณแม่ก็ไม่ควรตำหนิ หรือทำโทษเขาอย่างรุนแรง เพราะการทำแบบนี้จะยิ่งทำให้ลูกกลัว และไม่กล้าที่จะพูดความจริง ควรให้ลูกได้เกิดการเรียนรู้จากสิ่งที่ทำ และเมื่อโตขึ้น เขาจะได้มีนิสัยและพฤติกรรมที่ดีติดตัวไป รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ไม่ประจานให้ลูกอับอาย

ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ใครๆ ก็ไม่ชอบให้ประจานให้ต้องอับอายด้วยกันทั้งนั้น หากพบว่าลูกโกหก วิธีสอนลูกไม่ให้โกหก คือคุยกับลูกดีๆ ถามถึงเหตุผลที่ลูกต้องโกหก คุยเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง แค่พ่อแม่ และลูก เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่ากำลังโดนประจาน ทำให้ต้องอับอาย

6.รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยคุยกัน

การพูดคุยกันในระหว่างที่กำลังหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งจะกลายเป็นการระบายอารมณ์ใส่กัน เผลอพูดจาทำร้ายจิตใจลูกโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปอีก ควรรอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน เพราะถ้าพ่อแม่ดุมากไปก็จะยิ่งไม่ได้รับความจริงจากลูก เผลอๆ ลูกอาจจะพยายามโกหกเพิ่มขึ้นเพื่อหนีความผิด

หากพบว่าลูกชอบโกหก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคืออย่าเพิ่งดุด่าว่ากล่าว ควรถามถึงเหตุผลที่ต้องโกหก พร้อมทั้งชี้ให้ลูกเห็นผลเสียที่จะตามมาจากการโกหกของลูก สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่จะต้องไม่โกหก หรือเป็นแบบอย่างไม่ดีให้ลูกทำตาม ควรเลี้ยงลูกด้วยความรัก ความใกล้ชิด มีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา ลูกก็จะค่อยๆ ซึมซับ และรู้จักวิธีแก้ปัญหามากกว่าที่จะมาโกหกเพื่อหนีความผิด

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular