fbpx
Homeการเลี้ยงลูกการดูแลสุขภาพเด็กรู้ทัน! โรคเอ๋อในทารก ด้วยการเจาะเลือด ช่วยให้รักษาได้เร็ว 

รู้ทัน! โรคเอ๋อในทารก ด้วยการเจาะเลือด ช่วยให้รักษาได้เร็ว 

โรคเอ๋อในทารก เป็นภาวะความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ที่หากไม่ได้รับการรักษาทันที จะมีผลต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและเซลล์ของระบบประสาท สำหรับโรคเอ๋อนับว่าเป็นอีกหนึ่งโรคสำคัญที่คุณแม่หลายคนเกิดความกังวลเป็นอย่างมากว่าลูกน้อยที่ออกมานั้นจะมีความผิดปกติในเรื่องนี้ ซึ่งหากมีการตรวจพบว่าลูกน้อยมีความเสี่ยง และทราบว่า โรคเอ๋อเกิดจากสาเหตุใด ก็สามารถช่วยให้รักษาได้เร็ว และกลับมาเป็นปกติได้ วันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก เพื่อคุณแม่จะได้รู้ทันโรค และสามารถป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็ว

โรคเอ๋อในทารก เกิดจากอะไร

โรคเอ๋อในทารกหรือภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ นั่นหมายความว่า ต่อมไทรอยด์ขาดหายไปบางส่วน ไม่มีต่อมไทรอยด์มาตั้งแต่กำเนิด หรือต่อมไทรอยด์ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์จำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่ดีของสมอง และพัฒนาการของระบบประสาท เมื่อทารกมีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด อาจทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อนหรือสติปัญญาพร่องในเด็กได้นั่นเอง

รู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นโรคเอ๋อ

คุณแม่หลายคนตั้งคำถามว่าเราจะทราบได้อย่างไรว่าลูกน้อยมีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด โรคเอ๋อเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคเอ๋อในทารก โดยการคัดกรองทารกแรกเกิดตั้งแต่อายุ 2 วันขึ้นไป โดยการเก็บตัวอย่างเลือดที่ส้นเท้าไปส่งตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อวัดระดับของไทรอกซิน และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ ดังนี้

  • ค้นหาค่าระดับสูงของ TSH (ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมใต้สมอง ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์และเพิ่มการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์
  • ค้นหาค่าระดับต่ำของ T4 (ไทรอกซิน) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างโดยต่อมไทรอยด์ ช่วยควบคุมการเผาผลาญและการเจริญเติบโต

การตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัย โรคเอ๋อในทารก

โรคเอ๋อในทารกมีสาเหตุจากความผิดปกติของไทรอยด์ฮอร์โมน การตรวจเลือดวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมน ตั้งแต่ 2 วัน หลังคลอด การตรวจจะทราบผลประมาณ 10-20 วัน หากทารกที่มีผลผิดปกติจะได้รับการติดต่อให้มาพบกุมารแพทย์และตรวจเลือดซ้ำทันที และทารกบางคนได้รับการรักษาทันที บางคนอาจต้องรอดูผลการตรวจเลือดครั้งที่สอง ตามที่แพทย์พิจารณา โรคเอ๋อในทารกจะได้รับการรักษาภายในอายุไม่เกิน 1 เดือน และได้รับการตรวจรักษาต่อเนื่องไปจนอายุไม่น้อยกว่า 2 ปี บางรายต้องกินยาตลอดชีวิต ตามกรณีที่แพทย์ตรวจพบ ร่วมกับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง

ควรดูแลเด็กที่เป็นโรคเอ๋ออย่างไร

สำหรับโรคเอ๋อโดยรวมจะมีอาการ กล้ามเนื้อเกร็ง มีการเดินผิดปกติ มีพัฒนาการที่ล่าช้าทุกด้าน มีปัญหาเกี่ยวกับความจำและความสนใจ ตลอดจน มีปัญหาการมองเห็นและการได้ยิน การดูแลเด็กที่เป็นโรคเอ๋อในทารก จึงเน้นไปที่ความเอาใจใส่ เน้นการพัฒนา และอีกมากมายดังนี้

1.การรักษา โรคเอ๋อในทารก หากผลยืนยันว่าผิดปกติ คุณหมอจะเริ่มให้การรักษาโดยการให้ยาเลโวไทรอกซีน ซึ่งเป็นไทรอยด์ฮอร์โมนสังเคราะห์ ที่ช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์กลับมาอยู่ในระดับปกติ คือ ค่าฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) 0.5-5.0 mU/L. ในกรณีที่ทารกยังเด็กมาก อาจต้องบดยาผสมกับน้ำในปริมาณเล็กน้อยหรือผสมกับนมผงหรือนมแม่เพื่อให้ทารกกินได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับการตรวจเลือดเพื่อปรับขนาดของยาตามที่คุณหมอนัดสม่ำเสมอ

2.คุณแม่จะต้องปฏิบัติตามที่คุณสั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการพบคุณหมอบ่อย ๆ เพื่อติดตามอาการและ เพื่อหาหนทางการรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะหากปล่อยปละละเลย จะยิ่งทำให้โรคเอ๋อในทารก มีอาการที่รุนแรงได้ และอาจจะทำให้ยากต่อการรักษาอีกด้วย และคุณแม่จะต้องหมั่นเสริมพัฒนาการให้กับลูกน้อยบ่อย ๆ เพื่อที่ลูกน้อยจะได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และไม่ให้อาการกลับไปมีอาการที่รุนแรง

3.หากิจกรรมยามว่างให้ลูกน้อยทำบ่อย ๆ เพื่อเป็นการเสริมพัฒนาที่ดีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และควรให้ความสำคัญกับลูกน้อยตลอดเวลา เนื่องจากโรคเอ๋อในทารก เป็นโรคที่อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษา และสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ การเลือกอาหารที่ดีและมีประโยชน์ให้ลูกน้อยทาน จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น และยังส่งผลทำให้มีพัฒนาการที่ดีอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย เรื่องอาหารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หากคุณแม่ไม่รู้ว่าควรทานอาหารแบบไหน สามารถปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาได้เลย

โรคเอ๋อเป็นโรคที่คุณแม่หลายคนเป็นกังวลอย่างมาก แต่หากลูกน้อยได้รับการเจาะเลือดและวินิจฉัยโรคทันที หากพบว่าเป็นโรคเอ๋อ และได้รับการรักษาทันทีอย่างต่อเนื่อง และถูกต้อง โอกาสที่ลูกน้อยจะหายกลับมาเป็นปกติได้นั้นมีสูงแน่นอน และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณแม่จะต้องให้ความสำคัญดูแลเอาใจใสลูกน้อยเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรน่ากลัวหากรู้ทันโรค และสิ่งที่จะละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาดนั่นก็คือ ระหว่างการตั้งครรภ์คุณแม่จะต้องดูเอาใจใส่ลูกน้อยให้ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ มีการตรวจนัดตามที่แพทย์สั่งทุกครั้ง เพราะนี่เป็นการป้องกันและรู้ทันโรคเพื่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคน้อยที่สุดนั่นเอง

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular