fbpx
Homeผู้หญิงวุ้นในตาเสื่อม มีสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลรักษาอย่างไร

วุ้นในตาเสื่อม มีสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลรักษาอย่างไร

วุ้นในตาเสื่อม (Eye Floaters) คือภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นจุดเล็กลอยผ่านไปมา โดยจะมีรูปร่าง ขนาดที่แตกต่างกันออกไป บางรายเห็นเป็นจุดดำเล็ก บางรายเห็นเป็นจุดใหญ่คล้ายเมฆ หรือบางรายอาจมองเห็นเส้นยาวกระจายไปทั่ว เมื่อมองไปยังพื้นที่สว่างเช่นกำแพง หรือฝาผนังบ้าน ก็จะเห็นจุดดังกล่าวได้ชัดเจน วุ้นในตาเสื่อมเกิดจากสาเหตุใด อาการเป็นอย่างไร  และจะมีวิธีรักษา ป้องกันอย่างไรบ้าง ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝาก

วุ้นในตาเสื่อม เกิดจากสาเหตุใด

โรควุ้นในตาเสื่อม เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดก็คือ อายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งของเหลวในตาที่คล้ายวุ้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หรือเกิดกระบวนการทำให้วุ้นดังกล่าวหลุดลอกออกจากผิวของลูกตาไปวุ้นในตาเสื่อม ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อม ได้แก่

  • การอักเสบด้านหลังดวงตา หรือ (Posterior Uveitis) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ หรือ เกิดการอักเสบ
  • ภาวะเลือดออกในวุ้นตา หรือ (Vitreous hemorrhage) สาเหตุเกิดจากหลอดเลือดที่ผิดปกติในผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา ในผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อม จะเกิดภาวะเลือดออกง่าย
  • จอประสาทตาอุดตัน การได้รับบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุทางตา ทำให้ผู้ป่วยตามืดมัวลงอย่างฉับพลัน และจะมีอาการแย่ขึ้นเรื่อยๆ บางรายอาจเห็นสีแดงบังอยู่ในตา หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
  • วุ้นในตาเสื่อมเกิดจาก จอประสาทตาฉีกขาดหรือจอตาลอก สาเหตุนี้จะพบได้น้อยมาก ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็นในไม่ช้า
  • เป็นมาตั้งแต่กำเนิด การพัฒนาดวงตาของคนเรานั้นจะมีตั้งแต่ในครรภ์ ภายในวุ้นในน้ำวุ้นตาจะมีหลอดเลือดที่เรียกว่า Hyaloid artery โดยปกติแล้วหลอดเลือดนี้จะต้องหดหายไปก่อนที่ทารกจะคลอดออกมา แต่ในทารกบางรายการหดหายของหลอดเลือดอาจไม่สมบูรณ์ ทำให้ทารกเกิดมามีติ่งของหลอดเลือดยังคงเหลืออยู่ ซึ่งภายในหลอดเลือดจะมีเม็ดเลือดแดง จึงอาจหลุดออกมาในตาได้
  • การใช้ยาบางชนิด มีรายงานว่าการใช้ยาบางชนิดก็เป็นสาเหตุทำให้วุ้นในตาเสื่อม ได้เช่น ยาโซวิแรกซ์ (Zovirax) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคเริม โรคอีสุกอีใส โรคงูสวัด สารเคมีบางตัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเส้นใย Synchysis scintillans ในน้ำวุ้นเกิดการผลึกของแคลเซียม หรือของไขมันคอเลสเตอรอล ลอยไปลอยมาในน้ำวุ้นได้

วุ้นในตาเสื่อม อาการเป็นอย่างไร

สำหรับผู้ป่วย วุ้นตาเสื่อม อาการ ก็จะมีดังนี้

  • มองเห็นจุดเกิดขึ้น ซึ่งก็มีหลายรูปร่างไม่ว่าจะเป็น จุดดำขนาดเล็ก จุดดำคล้ายเมฆขนาดใหญ่ เป็นเส้นยาว เส้นใยแมงมุม หรือวงแหวน
  • วุ้นในตาเสื่อมสังเกตได้ง่ายๆ คือเมื่อมองเคลื่อนไหวดวงตา จุดต่างๆ ก็จะเคลื่อนตาม ทำให้มองเห็นภาพ แต่หากตั้งใจมองจุดดังกล่าวก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
  • จุดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะสังเกตได้ชัดเจนเมื่อไปยังพื้นผิวที่สว่าง เช่น ท้องฟ้าหรือกำแพงสีขาว

การดูแลรักษาเมื่อวุ้นในตาเสื่อม                                                                

การดูแลรักษาวุ้นในตาเสื่อม ในผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่จำเป็น เพราะ วุ้นตาเสื่อม อาการ ไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องรับการรักษา การใช้ยาหยอด หรือยาอื่นๆ ไม่ส่งผลในการรักษา ไม่ทำให้ผู้ป่วยหายได้ อย่างไรก็ตาม หากวุ้นในตาเสื่อม รบกวนทำให้เกิดการบกพร่องในการมองเห็น ซึ่งโอกาสนี้เกิดขึ้นได้น้อยมาก แพทย์อาจจะพิจารณาให้การรักษาด้วยวิธีดังนี้

1.การผ่าตัดวุ้นตา

 เป็นการผ่าตัดเอาวุ้นตาออกไปพร้อมกับเศษเนื้อที่ตาย และจะทดแทนวุ้นตาด้วยสารละลายน้ำเกลือ โดยการผ่าตัดจะไม่นำวุ้นออกไปทั้งหมด และวุ้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ใหม่หลังจากการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การรักษาโดยการผ่าตัด ก็มีความเสี่ยงทำให้เลือดออกในตา จอตาฉีกขาด จอตาลอก หรือต้อกระจกเป็นต้น

2.การรักษาโดยการทำเลเซอร์เพื่อแก้ปัญหาวุ้นตาเสื่อม

การรักษาโดยเลเซอร์จุดประสงค์เพื่อทำลายวุ้นในตาเสื่อม หรือเคลื่อนย้ายให้ออกไปจากการบดบังการมองเห็น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย กว่าการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการวิจัยเบื้องลึกว่าการรักษาโดยเลเซอร์ปลอดภัย และเห็นผลแน่ชัด บางรายอาจได้ผลดี แต่บางรายอาจไม่เกิดผลเลยก็ได้

วุ้นในตาเสื่อม ป้องกันได้ด้วยวิธีนี้

การป้องกัน วุ้นในตาเสื่อม นั้น สามารถป้องกันได้ แต่ในรายที่มีภาวะวุ้นตาเสื่อมจากธรรมชาติไปแล้ว ไม่สามารถป้องกันได้ แต่หากเกิดจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ก็จะมีวิธีป้องกันตามสาเหตุนั้นๆ เช่น การป้องกันหรือดูแลควบคุมโรคเบาหวานเป็นต้น และการมีสุขภาพที่ดี และการถนอมดวงตา ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับดวงตาอย่างรุนแรง ก็จะช่วยชะลอการเกิดวุ้นในตาเสื่อม ได้บ้าง โดยมีคำแนะนำดังนี้

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อดวงตา
  • หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 6 – 8 แก้ว เพื่อให้ดวงตาได้รับความชุ่มชื้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก และผลไม้ ที่มีวิตามินช่วยบำรุงสายตา เช่น ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพด แครอท ผักโขม คะน้า พริกหยวก เป็นต้น
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • เมื่อมีโรคทางกายเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง จะต้องดูแลควบคุมโรคที่เป็นอยู่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และปลอดภัย

วุ้นในตาเสื่อมเป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นจุดต่างๆ ลอยผ่านไปมา ถึงแม้ว่าจะไม่อันตราย และไม่ต้องรับการรักษาแต่อย่างใด แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ป่วยได้ไม่น้อย เพราะฉะนั้นหากไม่อยากเกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อม การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการเกิดภาวะดังกล่าว ก็จะช่วยชะลอการเกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อมได้ ทำให้มีดวงตาที่สดใสได้ใช้ไปนานๆ  

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular