fbpx
Homeการตั้งครรภ์ตกขาวขณะตั้งครรภ์ แบบไหนไม่ปกติ และมีวิธีการรักษาอย่างไร

ตกขาวขณะตั้งครรภ์ แบบไหนไม่ปกติ และมีวิธีการรักษาอย่างไร

ในระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างมาก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณตกขาว การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนทำให้มีการผลิตตกขาวมากขึ้น และยังทำให้ผนังช่องคลอดนุ่มลง ส่งผลให้สารคัดหลั่งออกมาได้ง่ายขึ้น ดังนั้นแม่ตั้งครรภ์จึงมักสังเกตเห็นว่า ตกขาวขณะตั้งครรภ์ มีในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติ ตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกับตกขาวปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด (ประมาณสัปดาห์ที่ 40) ลักษณะของตกขาวอาจเปลี่ยนแปลงไป โดยอาจมีลักษณะเป็นเมือกข้นและอาจมีเลือดปนออกมาด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด

ตกขาวขณะตั้งครรภ์ มีสาเหตุจากอะไร

ขณะตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยสาเหตุหลักมาจากความผันผวนของฮอร์โมนในร่างกาย ทั้งการเพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายในหลายด้าน ตั้งแต่การขยายขนาดของท้องที่ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น การลดลงของเรี่ยวแรง การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว และอาการแพ้ท้องที่อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิด นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนยังส่งผลต่อปริมาณตกขาวที่มากขึ้นด้วย อีกปัจจัยหนึ่งคือการที่ผนังช่องคลอดนุ่มลง ทำให้สารคัดหลั่งสามารถออกมาได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านจึงสังเกตเห็นว่ามีตกขาวในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์

อาการตกขาวแบบไหนไม่ปกติ

การสังเกตลักษณะของตกขาวและอาการที่เกิดร่วมกันสามารถช่วยในการวินิจฉัยเบื้องต้นได้ ดังนี้ ตกขาวเป็นน้ำหรือเมือกใสมักเป็นภาวะปกติ โดยเฉพาะในช่วงกลางรอบเดือนหรือระยะตกไข่ ลักษณะจะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี กลิ่น หรืออาการคัน อย่างไรก็ตาม หากมีลักษณะเป็นฟองและมีอาการคัน อาจบ่งชี้ถึงการอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรีย

ตกขาวสีเทาหรือขาวขุ่นอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีกลิ่นคล้ายปลาเค็ม โดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์หรือหลังหมดประจำเดือน ตกขาวเป็นก้อนสีขาวอาจเกิดจากการติดเชื้อรา มีลักษณะคล้ายนมบูด อาจมีสีเหลืองขาว มีกลิ่นอับแต่ไม่คาว และมักมีอาการแสบคันร่วมด้วย

ตกขาวสีเหลืองอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หนองใน เชื้อรา หรือไวรัส แต่ละชนิดจะมีลักษณะและอาการเฉพาะ เช่น กลิ่น ความคัน หรืออาการปวดแสบขณะปัสสาวะ ตกขาวสีเขียวมักเกิดจากการติดเชื้อทริโคโมแนส มีลักษณะเป็นฟอง มีกลิ่นเปรี้ยว และมักมีอาการคัน แสบ หรือเจ็บที่อวัยวะเพศร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม บางครั้งตกขาวปกติอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียวเมื่อสัมผัสอากาศ ซึ่งไม่จำเป็นต้องรักษา

ตกขาวขณะตั้งครรภ์ รักษาอย่างไร

การรักษาอาการตกขาวผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์นั้นไม่ซับซ้อนและมักได้ผลดี โดยทั่วไปแพทย์จะเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยยาเหน็บช่องคลอดหรือยารับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมักจะสามารถรักษาอาการให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่อาการอาจกลับมาเป็นซ้ำได้ในระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการรักษาของแพทย์ไม่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นเพราะการตั้งครรภ์มีระยะเวลายาวนานถึง 9 เดือน จึงมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้น การดูแลสุขอนามัยอย่างต่อเนื่องและการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ หากมีอาการกลับมาเป็นซ้ำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์

ป้องกันอาการตกขาวได้ด้วยวิธีไหน

ถ้าพบความผิดปกติของตกขาว เช่น สีเปลี่ยนไป มีกลิ่น หรือเกิดอาการคันบริเวณช่องคลอด ให้รีบไปพบสูตินรีแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ อย่างเชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัส รวมถึงไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจไม่ตรงกับการติดเชื้อนั้น ๆ จนยิ่งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นตกขาวที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เราสามารถดูแลจุดซ่อนเร้นได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีต่อไปนี้

  1. รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณภายนอก ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำควรใช้กระดาษชำระเช็ดอวัยวะเพศให้แห้ง และเช็ดจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากทวารหนักไปสัมผัสกับอวัยวะเพศ ในช่วงที่เป็นประจำเดือน ยิ่งต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา โดยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2–3 ชั่วโมง และอย่าปล่อยให้อวัยวะเพศเปียกชื้นด้วย
  2. ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด ความเชื่อที่ว่า การสวนล้างช่องคลอดจะทำให้ภายในช่องคลอดสะอาด ช่วยลดปริมาณตกขาว หรือถ้ามีเพศสัมพันธ์ ก็จะช่วยป้องกันอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะอันที่จริงแล้ว การสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบตามมา ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้ช่องคลอดมีกลิ่นและมีตกขาวมากกว่าปกติ
  3. ซักชุดชั้นในให้สะอาด บางครั้ง สาเหตุของการเกิดตกขาว อาจมาจากการสวมใส่ชุดชั้นในที่ไม่สะอาด หรือการสวมใส่ชุดชั้นในซ้ำ ๆ อยู่บ่อย ๆ ดังนั้น หากตกขาวเริ่มผิดปกติ ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หมั่นซักชุดชั้นในบ่อย ๆ หรือนำชุดชั้นในเก่าไปต้มน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อโรคเป็นครั้งคราว
  4. รับประทานโยเกิร์ต การรับประทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวที่มีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) จะช่วยเพิ่มแบคทีเรียตัวนี้ภายในช่องคลอดได้ ซึ่งแลคโตบาซิลลัสจะช่วยลดปัญหาตกขาวมีกลิ่น ที่อาจเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียภายในช่องคลอด
  5. ระมัดระวังเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวที่ผิดปกติโดยส่วนมากมักเกิดจากคู่รักหรือคู่นอนที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดอวัยวะเพศตัวเอง ทำให้อาจเกิดเชื้อราขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อมีเพศสัมพันธ์เลยทำให้เชื้อราหรือแบคทีเรียติดเข้ามาภายในอุ้งเชิงกรานของฝ่ายหญิงได้

ใครที่มีอาการตกขาวขณะตั้งครรภ์ ก็ลองสังเกตดูว่ามีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมหรือไม่ เช่น มีกลิ่นเหม็น และมีอาการคัน ซึ่งควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษานั่นเอง

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ:

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular