ทุกวันนี้ เด็ก ๆ หลายคนตกอยู่ในสังคมของการแข่งขันที่ไม่ต่างอะไรจากผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียน เช่น การสอบเข้าชิงที่นั่งในโรงเรียนชื่อดัง เพื่อให้ได้เข้าเรียนตามความพอใจของคุณพ่อคุณแม่ รวมไปถึงค่านิยมการล่าถ้วย ที่รางวัลชนะเลิศคือสิ่งที่พ่อแม่ต่างคาดหวัง และอยากให้ลูกไขว่คว้ามาให้ได้ ทำให้เด็กบางคนเกิดความกดดัน และตกอยู่ในสภาวะ “แพ้ไม่เป็น” ซึ่งจะเป็นอันตรายสำหรับเด็กมากในอนาคต
คุณพ่อคุณแม่ควรลดความคาดหวังลงบ้าง และหันมาเริ่มฝึกเด็กให้เรียนรู้ผลแพ้-ชนะตั้งแต่เล็ก ๆ โดยมีพ่อแม่เป็นต้นแบบ และเป็นคนสอนพวกเขา เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เด็กอาจกลายเป็นเด็กแพ้ไม่เป็น ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ และไม่คำนึงถึงผู้อื่นตามมาได้
แต่ถ้าลูกตกอยู่ในสภาวะแพ้ไม่เป็นถึงขั้นหนัก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ ไม่ควรตำหนิ แต่ควรให้เวลาแก่ลูกด้วยความเอาใจใส่ และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เมื่อลูกทำพลาดมาคุณพ่อคุณแม่ควรพูดจาให้กำลังใจกับลูก เช่น ผิดหวังเหรอลูก เสียใจเหรอลูก แม่เข้าใจ เพราะคนเราถ้าแพ้ก็รู้สึกแบบนี้ได้เหมือนกัน
การสอนให้ลูก “รู้จักแพ้” และยอมรับว่าทุกคนผิดพลาดได้ สามารถสอนได้จากวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- การสอนให้ลูกรู้จักคำว่าแพ้ จากการเล่นของเล่นต่างๆกับเพื่อน เช่น ให้ลูกได้เล่่นกีฬาสารพัดชนิดอย่างจานร่อน ฮูลาฮูบ ลูกบอล หรือว่าว ให้ลูกได้เล่นกับกลุ่มเพื่อนอย่างอิสระ เรียนรู้ผลแพ้ชนะ และไม่หวั่นต่อความผิดหวังพ่ายแพ้ เป็นต้น
- การสอนให้ลูกรู้จักคำว่าแพ้ จาการเล่านิทานเพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้ลูกฟัง เรื่องที่คุณแม่จะนำมาอ่านควรเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่สอนให้เข้าใจถึงเรื่องน้ำใจนักกีฬา ซึ่งหาได้ตามร้านหนังสือทั่วไป
- การสอนให้ลูกรู้จักคำว่าแพ้ จากการให้ลูกรู้จักชื่นชมผู้อื่น เพราะการชื่นชมผู้อื่นนั้น มีฐานมาจากการยอมรับความสามารถหรือผลงานของผู้อื่น สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกรู้จักพัฒนาตนเองขึ้นมา
เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องพบกับความพ่ายแพ้ หรือผิดหวัง แน่นอนว่าพวกเขาต้องเกิดความเสียใจ ท้อแท้ หรือรู้สึกอายบ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้ามีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยโอบประคองเชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้ไปไม่ว่าจะต้องพบกับเหตุการณ์ที่หนักอย่างไร ลูกน้อยก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : blogs.reuters.com