ดวงตาคืออวัยวะที่สำคัญมากของร่ายกาย ถ้าดวงตาผิดปกติจะส่งผลเสียถึงการมองเห็นของลูก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตดวงตาขอลูกสักนิดว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เพื่อที่จะได้แก้ไขหรือพาไปรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ
โรคตา 4 ประเภทที่พบได้มากในเด็ก มีดังนี้
1. ตาเหล่ ตาเข
ให้ลูกมองสิ่งของตรงๆ ถ้าลูกตาเหล่ หรือ ตาเข จะไม่สามารถมองไปในทางเดียวได้ อาจจะเขไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือ สังเกตจากการที่ลูกชอบแหงนหน้า ก้มหน้า เอียงคอ เพื่อมองให้เห็นสิ่งที่สนใจอย่างถนัด สิ่งผิดปกตินี้เกิดจากกล้ามเนื้อตาข้างใดข้างหนึ่งค่ะ ถ้าพบว่าลูกมีอาการดังกล่าวให้รีบพาลูกไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว เพราะอาการนี้จะทำให้ลูกใช้สายตาข้างใดข้างหนึ่งหนักมากเกินไป และทำให้เสียบุคลิกภาพอีกด้วยค่ะ
2. ตาขี้เกียจ
คือการใช้สายตาข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป อาจเกิดจาก สายตาสั้น ตาเอียง สายตายาว สังเกตจากการที่ลูกชอบกระพริบตาบ่อยๆหรือเดินชนสิ่งของบ่อยๆนั้นเองค่ะ การรักษาควรให้จักษุแพทย์ตรวจสอบว่าตาข้างไหนมีปัญหา โดยการใช้ผ้าปิดตาข้างที่ดีไว้และใช้ตาข้างที่ขี้เกียจข้างเดียวค่ะ
3. สายตาสั้น
สังเกตได้จากลูกมองสิ่งของต่างๆใกล้จนเกินไปเช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ โดยเพ่งมองเพื่อให้ชัดมากขึ้น ถ้าลูกมีอาการดังนี้แสดงว่าลูกมีอาการสายตาสั้นนั่นเองค่ะ การรักษาต้องให้คุณหมอตรวจสอบดูว่าสายตาของลูกสั้นถึงขนาดต้องใส่แว่นสายตาหรือไม่ ถ้าไม่สั้นมากสามารถฝึกได้ด้วยการไม่จ้องมองคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์มากเกินไป หรือควรอ่านหนังสือในที่สว่างพอไม่ใช้สายตามมากเกินความจำเป็นค่ะ
4. ตากุ้งยิง
เป็นอาการที่สังเกตได้ง่ายคือจะมีอาการบวมตรงหนังตา อาการตากุ้งยิงจะทำให้ลูกของคุณแม่มีอาการระคายเคืองตามาก อาการตากุ้งยิงไม่ใช่อาการที่เป็นอยู่ตลอดเวลา คุณแม่ควรต้องระวังเรื่องความสะอาดมือของลูก ที่จะไปโดนดวงตาว่าสะอาดพอหรือไม่หลีกเลี่ยงที่มีฝุ่น หรือ ที่ๆลมแรง เพราะลูกอาจเผลอใช้มือไปขยี้ตาจนอักเสบได้ค่ะ
ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆของลูกมาก ดังนั้น คุณแม่ควรดูแลเรื่องนี้ให้ลูกด้วยค่ะ นอกจากดูแลแล้วคุณแม่สามารถบำรุงสายตาของลูกด้วยอาหารบำรุงสายตาได้ เช่น ผักบุ้ง มันเทศ บร๊อกโคลี่ อาหารพวกนี้ล้วนเป็นอาหารที่บำรุงสายตาให้สดใสอยู่เสมอค่ะ
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : community.babycenter.com