ปัญหาเด็กก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเกิดความอึดอัดมากขึ้น เพราะผู้ปกครองก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่เปลี่ยนไปของลูกรัก แม้สีหน้าของเขาไม่สู้ดี แต่ไม่เข้ามาปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ เห็นบ่อยครั้งที่ลูกพูดคุยกับเพื่อนผ่านโซเชียลมีเดีย และเป็นเด็กติดโทรศัพท์มากขึ้น.
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คงเป็นห่วงลูกๆ ว่า เหตุใดลูกจึงไม่ปรึกษากับครอบครัว ทั้ง ๆ ที่เป็นคนใกล้ชิดกัน คุณพ่อคุณแม่คงคาดไม่ถึงว่า การเลี้ยงดูลูกในวัยเด็กเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป และการไม่ปรับจูนกันในครอบครัวก็มีสาเหตุร่วมด้วยค่ะ
ความเอาใจใส่และความเข้าใจในตัวตนของลูกคือสิ่งสำคัญ ยามที่ลูกเริ่มขอคำปรึกษาหรือพูดคุยกับครอบครัว แต่ปฏิกิริยาที่ตอบรับคือการรับฟังแบบขอไปที และมีการดุด่าถึงตัวตนของเขาแล้ว จิตใจของลูกจะปิดกั้นจากครอบครัวได้ง่ายที่สุด เมื่อครอบครัวมีเอฟเฟคในการรับฟังเรื่องของเขาแบบไหน ตัวเด็กก็จะมีเอฟเฟคกลับที่เหมือนกัน เพราะลูกจะคิดว่าในเมื่อคุณพ่อคุณแม่เลือกที่จะไม่ฟังเราแล้ว เหตุใดเขาจึงต้องรับฟังสิ่งต่าง ๆ จากคุณพ่อคุณแม่ด้วย
การรับฟังอย่างไรลูกจึงจะยอมเปิดใจพูดกับคนในครอบครัวนั้น สิ่งที่คุณทำได้คือการค่อยๆ ปรับตัว เริ่มจากการพูดคุยสะท้อนความรู้สึกของกันและกัน อย่างเช่น วันนี้มีการบ้านไหมลูก ด้วยน้ำเสียงที่เอื้ออารีมากขึ้น หรือเรียนวันนี้เหนื่อยไหม แม่เตรียมขนมไว้ให้ด้วยนะ แต่ในช่วงวัยที่สามารถแก้ไขได้ง่าย การยอมรับความรู้สึก ไม่ปฏิเสธเขา เด็กจะผ่อนคลายลง อาทิ เด็กหกล้ม คุณแม่ควรถามว่าเจ็บมากไหม เพราะล้มแบบใดก็เจ็บเสมอ การบอกว่าลูกไม่เจ็บหรอกเนอะ ไม่ใช่การปลอบที่ดีเลย
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนดีของสังคม รู้จักรับฟังและออกความคิดเห็นที่ดีแล้ว การฝึกฝนเขาตั้งแต่เด็กมีความสำคัญอย่างมาก เพราะวัยเด็กเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ได้ดีกว่า ถ้าเกิดปัญหาและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องแล้ว ความก้าวร้าว ดื้อรั้น ไม่เชื่อฟังคำแนะนำของใคร ๆ จะเป็นปัญหาติดตัวลูกต่อไป
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : elegantdirectory.com