ช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยอยู่นั้น เวลาเกิดอาการเจ็บป่วยอะไรมักจะต้องวิตกกังวลเสมอว่ายาที่ทานเข้าไปนั้นจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องหรือไม่ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัวและต้องทานยาอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเมื่อคุณแม่ทราบว่ากำลังมีน้องควรรีบไปปรึกษาแพทย์ว่ายาที่ตัวเองรับประทานอยู่นั้นจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยหรือไม่ และเมื่อใดที่เจ็บป่วยก็อย่าหายาทานเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรและควรแจ้งด้วยทุกครั้งว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ค่ะ
ทำไมถึงต้องวิตกกังวลกับเรื่องทานยา?
เพราะว่าการไหลเวียนโลหิตของแม่นั้นถ่ายทอดถึงลูกโดยตรงผ่านรกที่ทำหน้าทีเป็นตัวกลาง เพื่อทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ ระหว่างแม่สู่ลูก รกที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางจะขยายขนาดตามขนาดตัวของทารกในครรภ์ ทำให้ปริมาณเลือดไหลเวียนเพิ่มขึ้น โอกาสของยาที่ผสมปนอยู่ในโลหิตก็จะไหลเวียนมาสู่ทารกในครรภ์สูงเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
แน่นอนว่าสารประกอบยาบางชนิดมีโอกาสที่จะทำลายระบบประสาทหรือหยุดพัฒนาการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ดังนั้นเวลาจะทานยาอะไรคุณแม่จึงต้องควรปรึกษาคุณหมอก่อน ยิ่งหากรับประทานเข้าไปแล้วเกิดอาการแพ้ยาก็จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมากทีเดียว ยาที่คุณแม่มักจะรับประทานกันในช่วงตั้งครรภ์จะได้แก่ ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ยาแก้ไข้ และยาระบาย ซึ่งในสมัยนี้ได้มีตัวยาที่ออกมาเฉพาะหญิงที่ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนยาบำรุงหรือวิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะนั้นค่อนข้างปลอดภัย แต่หากเป็นยาบำรุงหรือวิตามินอื่น ๆ ควรปรึกษาคุณหมอดีที่สุดค่ะ
ถึงกระนั้นเราไม่ได้กล่าวห้ามคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นห้ามทานยาทุกชนิดนะคะ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่สามารถสามารถทานยาได้เมื่อมีอาการเจ็บป่วยแต่ต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอ และควรทานให้น้อยและในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ที่สำคัญคือคุณแม่ต้องดูแลรักษาตัวเอง เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง จึงจะเป็นวิธีป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง และอย่าลืมไปฝากครรภ์เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจสุขภาพร่างกายของลูกด้วยค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ