ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนผู้หญิงตั้งครรภ์ว่าพวกเค้าไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ใด ๆ หลังจากการศึกษาพบว่าไวน์เพียงครึ่งแก้วก็สามารถทำให้ทารกในครรภ์หยุดหายใจและการเคลื่อนไหวนานถึง 2 ชั่วโมง
จากการสัมภาษณ์ในรายการทีวีช่อง ITV ศาสตราจารย์ ปีเตอร์ เฮปเปอร์ (Peter Hepper) บอกว่า ถ้าผู้หญิงตั้งครรภ์ดื่มแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อย การหายใจและการเคลื่อนไหวของเด็กในครรภ์จะหยุดนาน 2 ชั่วโมง ซึ่งนั่นไม่ปกติที่เด็กควรจะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้สมองทารกพัฒนาอย่างไม่ถูกต้อง และทางเดียวที่ปลอดภัยที่สุดคือลดระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์
ศาสตราจารย์จาก มหาวิทยาลัยควีนส์ เบลฟาสต์ ได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระดับต่ำระหว่างตั้งครรภ์ โดยทำการอัลตร้าซาวด์ผู้หญิงตั้งครรภ์ 18 สัปดาห์ ซึ่งดื่มไวน์เป็นประจำปริมาณเฉลี่ยราว 200 มิลลิลิตร หรือราว 2 แก้วต่อสัปดาห์ พบว่าเด็กทารกหยุดหายใจและการเคลื่อนไหว จากนั้นก็มีการดิ้นและพลิกกลับตัวมากเกินไป
ส่วน ดร. แมรี่ มาเธอร์ (Mary Mather) ที่ปรึกษาด้านกุมารแพทย์ บอกว่ามีผู้หญิงชาวอังกฤษจำนวนมากที่ไม่เคยรับทราบข้อมูลเลยว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์นั้นอันตราย ต่างจากในสหรัฐ แคนนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ฮอลแลนด์ ที่หญิงตั้งครรภ์จะบอกว่าไม่ดื่มของมึนเมาทุกชนิด ดร. มาเธอร์ ย้ำว่า แอลกอฮอล์เป็นยาพิษ อันตรายต่อการสร้างเนื้อเยื่อของทารก
Sir Al Aynsley-Green ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพเด็กที่มหาวิทยาลัยลอนดอน และเป็นอดีตคณะกรรมาธิการเด็ก บอกว่า การเปิดเผยว่าแอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่อเด็กทารกนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยปกป้องความเสียหายของสมอง แต่ข้อมูลนั้นดูเหมือนยังไม่มีน้ำหนักมากพอจะทำให้ผู้หญิงตัดสินใจหยุดดื่มได้
นอกจากนี้ทางกรมอนามัย ยังแนะนำหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่ต้องการจะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมา แต่ถ้าเลือกจะดื่มก็ควรดื่มเพียงเล็กน้อยมากเพื่อลดความเสี่ยง และไม่ควรดื่มมากเกินกว่า 2 แก้ว ต่อสัปดาห์ และไม่ควรดื่มจนเมาเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ