ภาวะความเครียดของเด็ก ส่งผลต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้
คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตพฤติกรรมของลูกบ้างมั๊ยคะ ปกติลูกเป็นเด็กดี ร่าเริง แจ่มใส น่ารัก แต่ทำไมช่วงหลังๆมา งอแงบ่อยๆ ไม่มีเหตุผล เอะอะร้องไห้ บางครั้งอารมณ์รุนแรง เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้น เวลานอนมักปัสสาวะรดที่นอน ชอบดูดนิ้ว อมมือ ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน ชอบอาเจียนบ่อยๆเวลาให้รับประทานอาหาร หรือบ่นปวดท้องเวลาจะไปโรงเรียน พาลทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหงุดหงิดอารมณ์เสีย พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกของคุณกำลังเครียดนะคะ ต้องรีบแก้ไข
เมื่อเด็กเล็กมีความเครียด เค้ายังไม่สามารถสื่อสารทางวาจาออกมาให้คุณแม่รับรู้ได้ ดังนั้นเค้าจะแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติออกมาเพื่อให้คุณแม่ได้รับทราบ ว่าเค้ากำลังเครียดอยู่นะ
คุณแม่เองต้องคอยสังเกตุพฤติกรรมของลูก ทำความเข้าใจและรีบแก้ไข อย่าปล่อยให้ลูกมีความเครียดสะสมนาน เพราะจะขัดขวางพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กได้นะคะ
สาเหตุที่ลูกมีความเครียดนั้นอาจเป็นเพราะ เค้ามีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายบางอย่าง ที่ไม่สามารถสื่อสารให้คุณแม่เข้าใจได้ หรือ คุณแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไป ให้ทำกิจกรรมเยอะ กิจกรรมบางอย่างตัวเค้าเองยังไม่พร้อม หรือในเด็กที่เคยถูกเลี้ยงดูแบบตามใจ พอโดนขัดใจก็เกิดความเครียด หรือเด็กบางคนที่ต้องเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่ตัวเองคุ้นเคย ไปสู่ที่แห่งใหม่ ยังไม่สามารถปรับตัวได้ ก็ทำให้เกิดความเครียดเช่นกัน เช่น ในช่วงของการเข้าโรงเรียนช่วงแรกๆ เป็นต้น
วิธีแก้ไขความเครียดของลูก คุณแม่เองควรต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ลูกกำลังมีความเครียด ไม่ควรโมโห หรือลงโทษ ควรพูดคุยและมีเหตุผลกับลูกให้มากๆ ไม่บังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ยังไม่พร้อม
ปล่อยให้ลูกได้แสดงออกทางอารมณ์เพื่อระบายความเครียดบ้าง เช่น ปล่อยให้ร้องไห้ไป โดยไม่บังคับให้ลูกหยุดทันที ชื่นชม ให้กำลังใจเสมอๆ หากวันนี้ลูกยอมเดินเข้าโรงเรียนได้เอง หากิจกรรมร่วมกันที่เด็กทำแล้วเพลิดเพลิน อารมณ์ดี และมีความสุข เช่นการอ่านนิทาน เป็นต้น
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : easyreadsystem.com