fbpx
Homeผู้หญิงท้องเสียกินไรได้บ้าง และอาหารที่ควรเลี่ยง เพราะจะทำให้อาการหนักกว่าเดิม

ท้องเสียกินไรได้บ้าง และอาหารที่ควรเลี่ยง เพราะจะทำให้อาการหนักกว่าเดิม

เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องเคยท้องเสียมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะท้องเสียในเวลาที่เราพลาดกินอาหารปนเปื้อนเชื้อโรค หรืออาหารต่างท้องถิ่น ที่ร่างกายยังไม่เคยชินจนทำให้เกิดอาการท้องเสีย เมื่อมีอาการท้องเสียเราต้องดูแล รักษา ป้องกันตัวเองอย่างถูกวิธี จะทำให้อาการดีขึ้น ท้องเสียกินไรได้บ้าง คำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้ วันนี้เราจะมาแนะนำ อาหารที่กินได้ และอาหารที่ควรเลี่ยง เช็คให้ชัวร์ก่อนกินจะได้ไม่ทำให้อาการแย่ลง 

ท้องเสียกินอะไรได้บ้าง รวมอาหารที่ควรกิน

ท้องเสียหมายถึงการถ่ายอุจจาระมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ มีมูกเลือดปนออกมา การปฎิบัติตนอย่างถูกต้องเมื่อมี อาการท้อง เสียคือ ควรหยุดรับประทานอาหาร 2 – 4 ชั่วโมง พร้อมกับจิบเกลือแร่ เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำจำนวนมากจากการถ่ายหลายครั้ง ท้องเสียกินไรได้บ้างหลังจากงดอาหารมา 2 – 4 ชั่วโมง สามารถกินอาหารได้ดังนี้

1.น้ำเปล่า

น้ำเปล่าสะอาด หรือน้ำเกลือแร่ เป็นสิ่งที่ควรดื่มเพื่อชดเชยของเหลวที่เสียไปภายในร่างกาย เนื่องจากการถ่ายหลายครั้ง น้ำเปล่าเรียกว่าเป็นยาวิเศษก็ว่าได้ เพราะสามารถทดแทนน้ำในร่างกายที่เสียไป และยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย การดื่มน้ำยังเป็นการขับของเสียที่ตกค้างในร่างกายออกได้โดยเร็วอีกด้วย

2.โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม

สำหรับคนที่เพิ่งท้องเสีย ท้องเสียกินไรได้บ้างหากอยากเติมพลัง โจ๊ก หรือข้าวต้ม สามารถกินได้ เพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ถ้าอยากเพิ่มเนื้อสัตว์ควรสับให้ละเอียด ระบบย่อยจะได้ทำงานน้อยลง  ผู้ที่มีอาการท้องเสียควรเลือกกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น อาหารประเภทแป้งขาว  โจ๊ก หรือข้าวต้มเป็นต้น

3.ขนมปังสีขาว

อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า สำหรับผู้ที่มี อาการท้องเสีย ควรเลือกกินอาหารที่ย่อยง่ายอย่างเช่นอาหารจำพวกแป้งขาว ขนมปังสีขาว ไม่ควรทา หรือเติมอะไรลงไปขนมปังเปล่าๆ จะดีที่สุด แต่ถ้ามีอาการท้องเสียแบบเรื้อรัง ควรเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง เพราะมียิสต์เป็นส่วนประกอบนั่นเอง

4.กล้วย

เนื่องจากกล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่าย กินได้ทุกเพศทุกวัย  และยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ที่มีคุนสมบัติช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี ท้องเสียกินไรได้บ้างแนะนำให้เป็นกล้วยน้ำว้าจะดีที่สุด เพราะมีสารแทนนิน ช่วยแก้อาการท้องเสียได้ด้วยนั่นเอง

5.ซุป

ซุปจัดเป็นอาหารประเภทเดียวกับโจ๊ก และข้าวต้ม ท้องเสียกินไรได้บ้าง เมื่อมีอาการท้องเสีย สามารถทานซุปได้ ไม่ว่าจะเป็นซุปอะไรก็ตามแต่ ขอแค่ไม่รสจัด และย่อยง่าย ก็ถือว่าทานได้เลย

6.แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

สำหรับคนที่ท้องเสียมาได้สักระยะ จนเริ่มที่จะกินอาหารได้บ้างแล้ว แนะนำให้กินอาหารอ่อนๆ และย่อยง่ายอย่างเช่น แกงจืดเต้าหู้หมูสับ หรือจะเพิ่มสาหร่ายเข้าไปด้วยก็ได้ เพราะสาหร่ายมีโพแทสเซียม ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ดี แต่ถ้าท้องเสียมาใหม่ๆ แนะนำให้เลี่ยงอาหารที่มีกากใยสูงอย่างเช่นผัก หรือผลไม้จะดีกว่า

ท้องเสียห้ามกินอะไร รวมอาหารที่ควรเลี่ยง

ท้องเสียกินไรได้บ้างก็คงได้รู้กันไปแล้วในบทความข้างต้น คราวนี้เรามาดูกันว่า เมื่อมีอาการท้องเสียห้ามกินอะไร ควรเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้าง เช็คให้ชัวร์ก่อนกินอาการจะได้ดีขึ้น

1.อาหารที่มีกากใย

เมื่อมี อาการท้องเสีย อาหารที่ไม่ควรกิน ควรเลี่ยงก็คือ อาหารที่มีกากใยสูงอย่างเช่น ผัก และผลไม้ เพราะจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร เร่งให้เกิดการขับถ่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

2.อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

อาหารจำพวกสุกๆ ดิบๆ อาหารประเภทนี้ควรเลี่ยงอย่างยิ่งเมื่อมีอาการท้องเสีย เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย หากกินเข้าไป จะยิ่งทำให้อาการแย่ลงได้ ถ้าอยากจะกินควรทำให้สุกดีก่อน

3.อาหารที่มีรสเผ็ดจัด

อย่างที่ทราบกันดีว่า อาหารที่มีรสเผ็ดจัดนั้น เป็นอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่ายขึ้น เนื่องจากอาหารรสเผ็ดจัดจะทำให้ทางเดินอาหารถูกรบกวน กระตุ้นให้ปวดท้อง และถ่ายหนักมากขึ้นนั่นเอง

4.นม และแอลกอฮอล์

เพราะแลคโตสในนมจะถูกย่อยและเกิดแก๊สในลำไส้ และแอลกอฮอล์จะเข้าไปรบกวนทางเดินอาหารทำให้อาการท้องเสียแย่ลงนั่นเอง อาหารประเภทนี้จึงควรเลี่ยงโดยเด็ดขาด เมื่อมีอาการท้องเสีย

5.ชา กาแฟ

ท้องเสียกินไรได้บ้าง และควรเลี่ยงอะไร ชากาแฟถือเป็นอาหารที่ควรเลี่ยง เพราะคาเฟอีนในชา และกาแฟมีฤทธิ์ช่วยระบายอยู่แล้ว ผู้ที่มีอาการท้องเสียจึงควรเลี่ยงจะดีกว่า

คำแนะนำเมื่อมีอาการท้องเสีย

เมื่อมีอาการท้องเสีย สิ่งที่ควรทำคือ หยุดรับประทานทุกชนิด 2 – 4 ชั่วโมง พร้อมทั้งจิบน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนการขาดน้ำเนื่องจากการขับถ่ายจำนวนหลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องกินยาแก้ท้องเสีย เพราะร่างกายจำเป็นต้องถ่ายล้างของเสียออกจากลำไส้ให้หมด หากมีอาการถ่ายไม่หยุด ถ่ายมากกว่า 8 – 10 ครั้งต่อวัน อุจจาระมีเลือดสีแดงหรือสีดำปน ร่วมกับอาการอาเจียน อ่อนเพลีย เป็นตะคริว  ควรรีบไปพบแพทย์

อาการท้องเสียเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน เพราะอาหารจะเน่าเสียง่าย เราจึงควรดูแลตัวเองให้ดี ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง ไม่ควรกินอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ เพราะโอกาสปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียสูง เนื่องจากไม่ผ่านความร้อน ท้องเสียกินไรได้บ้าง สามารถเลือกรับประทานอาหารได้ตามที่เราได้กล่าวมาข้างต้น และหากมีอาการท้องเสียที่รุนแรง ร่วมกับอาการ อาเจียน อ่อนเพลีย ถ่ายปนเลือด อย่านิ่งนอนใจควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาจะดีที่สุด

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular