แม่ท้องบางคนเริ่มมีอาการเจ็บท้องเบา ๆ ช่วงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์เป็นต้นไป จึงอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการเจ็บท้องเตือนใกล้คลอด แต่ความจริงแล้วอาการเจ็บท้องจริง เจ็บท้องเตือน และเจ็บหลอก มีความแตกต่างกัน ซึ่งแม่ท้องควรทราบเพื่อเตรียมพร้อมก่อนคลอดลูก อาการเจ็บท้องเตือน หรือที่เรียกว่าเจ็บท้องหลอก จะมีลักษณะเจ็บบริเวณช่องท้องเนื่องจากมดลูกบีบตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด โดยมดลูกจะบีบตัวเป็นระยะ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงเมื่อถึงวันคลอด อาการเจ็บนี้จะไม่มีความถี่ที่แน่นอน อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ และมักจะเจ็บเพียงชั่วครู่แล้วหายไป ซึ่งแตกต่างจากอาการเจ็บท้องจริงที่จะเจ็บถี่ ๆ อย่างต่อเนื่องทุกชั่วโมง สำหรับการดูแลคุณแม่ที่มีอาการเจ็บท้องหลอกหรือเจ็บท้องเตือน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เปลี่ยนท่านอนเป็นท่านอนตะแคงซ้าย ฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ ลึก ๆ และช้า ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ รวมถึงควรปัสสาวะบ่อย ๆ เพราะการกลั้นปัสสาวะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บท้องเตือนบ่อยขึ้น
อาการเจ็บท้องเตือน เป็นอย่างไร
อาการเจ็บท้องเตือนอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักรู้สึกได้ถึงอาการเจ็บท้องเตือนในช่วงไตรมาสที่ 2 ไปจนถึงช่วงใกล้คลอด ลักษณะของอาการเจ็บท้องเตือนมักมีดังนี้ คุณแม่อาจรู้สึกท้องแข็ง หรือมีอาการปวดบีบคล้ายปวดประจำเดือน ซึ่งมักปวดเฉพาะบริเวณท้องน้อย อาการเจ็บมักเกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอและไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน โดยทั่วไปจะมีอาการในช่วงสั้น ๆ ตั้งแต่ไม่เกิน 30 วินาทีไปจนถึง 2 นาทีแล้วหายไประยะห่างของการเกิดอาการแต่ละครั้งมักใกล้เคียงกัน ไม่ถี่ขึ้น และความรุนแรงของอาการมักจะเท่า ๆ เดิมหรือปวดน้อยลง ไม่ปวดรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ อาการมักดีขึ้นเมื่อคุณแม่ได้เปลี่ยนท่าทาง ลักษณะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถแยกแยะระหว่างอาการเจ็บท้องเตือนกับอาการเจ็บท้องคลอดจริงได้ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือผดุงครรภ์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
อาการเจ็บท้องคลอดจริง เป็นแบบไหน
อาการเจ็บท้องจริงเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการคลอด ซึ่งแตกต่างจากอาการเจ็บท้องเตือนหรือเจ็บท้องหลอกอย่างชัดเจน โดยมีลักษณะดังนี้ ความสม่ำเสมอและความถี่: อาการเจ็บท้องคลอดจริงจะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีรูปแบบที่ชัดเจน โดยจะเกิดขึ้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เริ่มจากทุก 10-15 นาที และค่อย ๆ ถี่ขึ้นจนเหลือทุก 2-3 นาทีในช่วงใกล้คลอด
- ความรุนแรงเพิ่มขึ้น: อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากความรู้สึกไม่สบายท้องเล็กน้อย และค่อย ๆ ปวดมากขึ้นจนถึงขั้นที่คุณแม่อาจต้องหยุดทำกิจกรรมที่กำลังทำอยู่
- ระยะเวลาของอาการ: อาการเจ็บแต่ละครั้งจะคงอยู่นานขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั่วไปจะเริ่มจากประมาณ 30-45 วินาที และยาวนานขึ้นจนถึง 60-90 วินาทีเมื่อใกล้คลอด
- ตำแหน่งของอาการ: ความเจ็บปวดมักเริ่มจากด้านหลังและแผ่ไปยังด้านหน้าของท้อง บางครั้งอาจรู้สึกปวดร้าวลงไปที่ขาด้วย
- การเปลี่ยนท่าไม่ช่วย: ไม่ว่าคุณแม่จะเปลี่ยนท่าทางอย่างไร อาการเจ็บท้องคลอดจริงจะยังคงดำเนินต่อไป ต่างจากอาการเจ็บท้องเตือนที่มักดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าทาง
- อาการร่วมอื่น ๆ: อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด น้ำเดิน หรือถุงน้ำคร่ำแตก
- ความรู้สึกของคุณแม่: คุณแม่จะรู้สึกว่าอาการเจ็บท้องครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ และอาจมีความรู้สึกว่า “ถึงเวลาแล้ว”
วิธีบรรเทาอาการปวดท้องคลอด
อาการปวดท้องคลอดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคลอดตามธรรมชาติ แม้จะไม่สามารถกำจัดความเจ็บปวดได้ทั้งหมด แต่มีหลายวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ดังนี้
- การหายใจอย่างถูกวิธี: ฝึกเทคนิคการหายใจลึกและช้า จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและรับมือกับความเจ็บปวดได้ดีขึ้น การหายใจเข้าลึก ๆ ทางจมูกและหายใจออกช้า ๆ ทางปากสามารถช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้
- การเคลื่อนไหวและเปลี่ยนท่า: การเดินเบา ๆ การแกว่งสะโพก หรือการเปลี่ยนท่าทางบ่อย ๆ สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและกระตุ้นให้การคลอดดำเนินไปอย่างราบรื่น ท่านั่งโยกเยก หรือคุกเข่าโน้มตัวไปด้านหน้าก็เป็นท่าที่ช่วยได้ดี
- การนวดและการกดจุด: การนวดบริเวณหลังส่วนล่างหรือการกดจุดบรรเทาปวดสามารถช่วยลดความเจ็บปวดได้ คู่สมรสหรือผู้ช่วยคลอดสามารถช่วยนวดให้ได้
- การใช้ความร้อนหรือความเย็น: การประคบร้อนบริเวณหลังส่วนล่างหรือการใช้ถุงน้ำแข็งประคบบริเวณที่ปวด สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ตามความชอบของแต่ละคน
- การแช่น้ำอุ่น: หากสถานพยาบาลอนุญาต การแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เตรียมพร้อมอย่างไร เมื่อใกล้ถึงวันคลอดลูก
การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคน ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมได้อย่างมั่นใจ
- จัดกระเป๋าคลอด เตรียมเสื้อผ้าสำหรับคุณและทารก อุปกรณ์อาบน้ำและของใช้ส่วนตัว เอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน และประวัติการฝากครรภ์
- วางแผนการเดินทาง กำหนดเส้นทางไปโรงพยาบาล เตรียมพาหนะให้พร้อม แจ้งญาติหรือเพื่อนที่สามารถช่วยเหลือได้
- ศึกษาสัญญาณการเจ็บครรภ์ สังเกตอาการเจ็บท้องเป็นระยะ น้ำเดิน มีเลือดออกทางช่องคลอด
- พูดคุยกับแพทย์ ทบทวนแผนการคลอด สอบถามข้อสงสัยต่างๆ แจ้งความต้องการพิเศษ (ถ้ามี)
- เตรียมบ้านให้พร้อม จัดเตรียมห้องทารก ซื้ออุปกรณ์จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด ทำความสะอาดบ้านให้ถูกสุขลักษณะ
- ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ฝึกการหายใจและผ่อนคลาย
- เรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก อ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับการดูแลทารก เข้าร่วมคลาสเตรียมความพร้อมสำหรับคุณแม่มือใหม่
การเตรียมพร้อมเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและพร้อมรับมือกับการคลอดที่กำลังจะมาถึง หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผู้ดูแลเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ