fbpx
Homeการเลี้ยงลูกการดูแลสุขภาพเด็กทารกสะอึกบ่อย เป็นอันตรายหรือไม่ มีวิธีแก้ไขอย่างไร?

ทารกสะอึกบ่อย เป็นอันตรายหรือไม่ มีวิธีแก้ไขอย่างไร?

หลังจากลูกกินนมอิ่มแล้ว คุณแม่มักคาดหวังว่าลูกน้อยจะหลับไปอย่างสบาย แต่บางครั้งอาจพบว่าลูกเกิดอาการสะอึกขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกกังวลว่า ทารกสะอึกบ่อย เป็นสัญญาณผิดปกติหรือไม่ เราเข้าใจความรักและความห่วงใยของคุณแม่ จึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาการสะอึกในทารกดังนี้ อาการสะอึกเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน รวมถึงทารก สาเหตุของการสะอึกในทารกมักเกิดจากการที่นมที่ดื่มเข้าไปทำให้กระเพาะอาหารขยายตัว ส่งแรงดันไปยังกล้ามเนื้อกะบังลม เมื่อหายใจออก กล้ามเนื้อกะบังลมจะหดตัวอย่างรวดเร็วทำให้เกิดเสียงสะอึก

โดยมักเกิดขึ้นหลังจากทารกอิ่มนม อาการสะอึกในทารกไม่ใช่เรื่องอันตรายและมักจะหายไปเองหลังจากผ่านไปสักพัก เมื่อทารกอายุประมาณ 4-5 เดือน อาการสะอึกจะค่อย ๆ ลดลงและเกิดขึ้นน้อยลง อย่างไรก็ตาม หากลูกมีอาการสะอึกติดต่อกันนานเป็นชั่วโมง ควรพาไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีสาเหตุอื่นที่เป็นอันตรายได้ คุณแม่สามารถรับมือกับอาการสะอึกของลูกน้อยได้ด้วยวิธีง่าย ๆ และไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป เพราะโดยปกติแล้วอาการสะอึกจะหายไปเองภายในไม่นาน

ทารกสะอึกบ่อย เกิดจากอะไร

อาการสะอึกในทารกเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย โดยมักเกิดขึ้นหลังจากการดื่มนม สาเหตุหลักของการสะอึกในทารกมีดังนี้

  • การดื่มนมเร็วเกินไป: เมื่อทารกดูดนมเร็วเกินไป อาจทำให้กลืนอากาศเข้าไปพร้อมกับนม ส่งผลให้เกิดอาการสะอึกได้
  • กระเพาะอาหารขยายตัว: เมื่อทารกดื่มนมจนอิ่ม กระเพาะอาหารจะขยายตัว ทำให้เกิดแรงกดดันต่อกล้ามเนื้อกะบังลม ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการสะอึก
  • อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง: การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน เช่น จากอากาศเย็นไปสู่อากาศอุ่น อาจกระตุ้นให้เกิดอาการสะอึกได้
  • ความตื่นเต้นหรือกระวนกระวาย: บางครั้งอารมณ์ของทารก เช่น ความตื่นเต้นหรือความกระวนกระวาย อาจนำไปสู่การสะอึกได้
  • พัฒนาการของระบบย่อยอาหาร: ระบบย่อยอาหารของทารกยังอยู่ในช่วงพัฒนา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการสะอึกได้ง่าย

โดยทั่วไปแล้ว อาการสะอึกในทารกไม่ใช่เรื่องน่ากังวล และมักจะหายไปเองภายในไม่กี่นาทีหรือหลังจากการเรอ อย่างไรก็ตาม หากทารกมีอาการสะอึกบ่อยมากหรือสะอึกต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาสุขภาพอื่นหรือไม่

การสะอึกในเด็กทารก อันตรายหรือไม่

โดยทั่วไปแล้ว อาการสะอึกในเด็กทารกไม่ได้เป็นอันตรายและถือเป็นเรื่องปกติ เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางร่างกายของทารก อาการสะอึกมักเกิดขึ้นหลังจากการดื่มนมและจะหายไปเองภายในไม่กี่นาที อาการสะอึกเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อกะบังลมอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจเกิดจากการกินนมเร็วเกินไป การกลืนอากาศ หรือการขยายตัวของกระเพาะอาหาร ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการปกติในการพัฒนาระบบย่อยอาหารของทารก แม้ว่าอาการสะอึกอาจทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายตัวชั่วคราว แต่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ในทางตรงกันข้าม การสะอึกอาจช่วยในการไล่อากาศออกจากกระเพาะและช่วยในกระบวนการย่อยอาหารของทารก อย่างไรก็ตาม หากทารกมีอาการสะอึกที่รุนแรง ต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาเจียน หายใจลำบาก หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาสุขภาพอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่

วิธีแก้อาการสะอึกในทารก

อาการสะอึกในทารกเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายตัว คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยบรรเทาอาการสะอึกของลูกน้อยได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

  1. ให้ทารกเรอ: หลังจากให้นม ลองจับทารกให้อยู่ในท่าตั้งตรงและลูบหลังเบาๆ เพื่อช่วยไล่อากาศในกระเพาะออกมา ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการสะอึกได้
  2. ปรับเปลี่ยนท่าให้นม: ลองเปลี่ยนท่าการให้นมเพื่อลดการกลืนอากาศ เช่น ยกศีรษะทารกให้สูงขึ้นเล็กน้อยขณะให้นม
  3. ให้ดูดนมช้าลง: หากทารกดูดนมเร็วเกินไป ให้ลองหยุดพักเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันการกลืนอากาศมากเกินไป
  4. นวดท้องเบาๆ: การนวดท้องเบาๆ อาจช่วยคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการสะอึกได้
  5. เปลี่ยนอิริยาบถ: ลองอุ้มทารกในท่าต่างๆ เช่น จับให้นอนคว่ำบนตัก หรืออุ้มพาดบ่า อาจช่วยเปลี่ยนตำแหน่งของกะบังลมและบรรเทาอาการสะอึกได้
  6. ให้ดูดจุกนมหลอก: การดูดจุกนมหลอกอาจช่วยปรับการหายใจและลดอาการสะอึกได้
  7. ใช้ผ้าอุ่นๆ: วางผ้าอุ่นๆ (ไม่ร้อนเกินไป) บนหน้าอกของทารกอาจช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดอาการสะอึก

คุณแม่ต้องรู้ อะไรบ้างที่ห้ามทำเมื่อลูกมีอาการสะอึกบ่อย

อาการสะอึกในทารกเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แต่บางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกกังวลและพยายามหาวิธีช่วยบรรเทาอาการให้ลูกน้อย อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่คุณแม่ไม่ควรทำเมื่อทารกมีอาการสะอึกบ่อย เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของทารก ดังนี้

  1. ห้ามทำให้ทารกตกใจ: วิธีการทำให้ตกใจเพื่อหยุดอาการสะอึกอาจใช้ได้ผลในผู้ใหญ่ แต่ไม่เหมาะสมสำหรับทารก การทำให้ทารกตกใจอาจทำให้เกิดความเครียดและส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์
  2. ห้ามเขย่าตัวทารกแรงๆ: การเขย่าตัวทารกอย่างรุนแรงเพื่อหยุดอาการสะอึกเป็นอันตรายอย่างยิ่ง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่สมองหรืออวัยวะภายในได้
  3. ห้ามให้น้ำตาลหรือน้ำผึ้งแก่ทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี: แม้จะมีความเชื่อว่าการให้น้ำตาลหรือน้ำผึ้งอาจช่วยบรรเทาอาการสะอึก แต่สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อทารกที่อายุน้อยกว่า 1 ปี โดยเฉพาะน้ำผึ้งที่อาจมีเชื้อโบทูลิซึมซึ่งเป็นอันตรายต่อทารก
  4. ห้ามให้ยาแก้สะอึกสำหรับผู้ใหญ่: ยาแก้สะอึกที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ไม่เหมาะสมสำหรับทารก และอาจเป็นอันตรายได้
  5. ห้ามบีบจมูกหรือปิดปากทารก: การพยายามหยุดการหายใจของทารกชั่วคราวเพื่อแก้อาการสะอึกเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และอาจนำไปสู่ปัญหาการหายใจได้
  6. ห้ามให้ทารกนอนหงายทันทีหลังให้นม: การให้ทารกนอนหงายทันทีหลังให้นมอาจทำให้นมไหลย้อนและเพิ่มความเสี่ยงในการสำลัก

หากลูกมีอาการสะอึกบ่อยๆ ก็ลองทำตามคำแนะนำข้างต้นกันดู จะช่วยให้ลูกหายสะอึกได้เร็วขึ้น และไม่เป็นอันตรายอีกด้วย

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular