fbpx
Homeการเลี้ยงลูกการปั๊มนมแม่ และวิธีเก็บน้ำนมอย่างถูกวิธี คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

การปั๊มนมแม่ และวิธีเก็บน้ำนมอย่างถูกวิธี คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

คุณแม่หลายท่านมีทั้งภาระหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบนอกบ้าน และยังต้องมีหน้าที่ของการเป็นแม่เพิ่มขึ้นมาอีก แม้จะต้องทำงานนอกบ้าน แต่คุณแม่เองก็ยังสามารถให้ลูกได้รับประทานนมแม่ได้ทุกมื้อโดยไม่ต้องพึ่งนมผงเลย วันนี้เรามีเทคนิคใน การปั๊มนมแม่ และวิธีเก็บนมแม่ สำหรับคุณแม่นักปั๊มมือใหม่มาฝากกันค่ะ

อุปกรณ์ที่คุณแม่นักปั๊มมือใหม่ต้องเตรียม

เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนดีกว่า โดยมีดังนี้

  • เครื่องปั๊มนม ทั้งแบบไฟฟ้า แบบใช้แบตเตอร์รี่ หรือแบบปั๊มมือธรรมดา หรือมือของคุณแม่เอง
  • ถุงเก็บน้ำนม หรือขวดเก็บน้ำนม
  • กระติกน้ำแข็ง ในกรณีที่ปั๊มนอกบ้าน และตู้เย็นเก็บสต็อคน้ำนมในบ้าน

คำแนะนำการปั๊มนมแม่

ระยะเวลาปริมาณการปั๊มนมแม่ ที่เหมาะสมนั้น สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มปั๊มนมแม่ ยังไม่รู้จักกลไกการหลั่งน้ำนมของตัวเอง อาจใช้เวลาในการปั๊มนมแม่ อย่างน้อย 15นาที ต่อข้าง และเมื่อคุณแม่มีประสบการณ์ในการปั๊มนมแม่ มากขึ้นแล้วอาจใช้เวลาเพียง  10 นาทีในการปั๊มนมต่อข้าง หรือพร้อมกัน 2 ข้างก็ได้ (หากเป็นเครื่องแบบปั๊มคู่)

วิธีเก็บน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

หลังจากที่คุณแม่ได้น้ำนมมาแล้ว ก็ให้เขียนวันเวลาที่ได้ปั๊มนมแม่ไว้บนถุงเก็บน้ำนม คุณแม่ควรแบ่งปริมาณน้ำนมให้พอดีกับมื้อหนึ่งที่ลูกรับประทาน และแช่ลงไปในกระติกน้ำแข็งทันที เมื่อกลับถึงบ้านให้รีบแช่ในช่องแช่แข็ง จัดเรียงโดยให้นมที่ปั๊มก่อนอยู่ด้านนอก นมที่ปั๊มได้ทีหลังอยู่ด้านใน เรียงตามวันและเวลาให้เป็นระเบียบ และเมื่อต้องการให้ลูกรับประทาน ให้เอาถุงเก็บน้ำนมมาแช่ในช่องเย็นปกติเพื่อให้ละลายก่อนล่วงหน้า 1 วัน แล้วแช่นมในน้ำอุ่นพอนมอุ่น ๆ ก็ให้ลูกดื่มได้เลยค่ะ

ปั๊มนมแม่แช่เก็บไว้ ดีอย่างไร?

การปั๊มนมแม่มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

  1. ช่วยให้การผลิตน้ำนมแม่มีความคงที่ เพราะการปั๊มนมแม่อย่างสม่ำเสมอจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากขึ้น
  2. ทำให้ลูกได้รับประโยชน์จากน้ำนมแม่แม้ว่าแม่จะไม่ได้อยู่ด้วย เช่น เวลาทำงาน เดินทาง หรือมีภาวะที่ไม่สามารถให้นมบุตรได้ชั่วคราว
  3. ช่วยบรรเทาอาการเต้านมคัดในแม่หลังคลอด เนื่องจาก การปั๊มนมแม่จะช่วยระบายน้ำนมส่วนเกินออกจากเต้านม จึงไม่เกิดการคัดตึงนั่นเอง
  4. สะดวกสำหรับแม่ที่ต้องทำงานหรือเดินทางไกล ๆ โดยสามารถปั๊มนมแม่ไว้ล่วงหน้าและเก็บไว้ได้
  5. ช่วยให้พ่อหรือผู้ดูแลคนอื่น ๆ สามารถมีส่วนร่วมในการให้นมลูกได้

การปั๊มนมแม่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแม่ที่ต้องการให้ลูกได้รับสารอาหารจากน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ก็มีข้อดีมากมายทั้งต่อแม่และลูกน้อยเลยทีเดียว

ปั้มนมอย่างไรให้เกลี้ยงเต้า และได้น้ำนมเยอะ

เคล็ดลับการปั๊มนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพและเกลี้ยงเต้านม

  1. ใช้วิธีการปั๊มด้วยมือและใช้เครื่องปั๊มนม เพราะ การปั๊มนมแม่ ด้วยมืออาจบีบนมออกมาไม่หมด การสลับมาใช้เครื่องปั๊มด้วยจะช่วยให้ปั๊มนมออกมาได้มากขึ้นและเกลี้ยงเต้ากว่าเดิม
  2. เลือกใช้เครื่องปั๊มนมคุณภาพเกรดโรงพยาบาล เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถปั๊มนมได้อย่างเต็มที่และปริมาณเหมาะสม
  3. ระวังอย่าบีบรัดหัวนมหรือลานนมแรงเกินไป เพราะจะทำให้เจ็บปวดและส่งผลให้นมออกมาน้อยลง ควรใช้วิธีการที่นุ่มนวลและไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
  4. ขณะปั๊มนม ให้สลับจังหวะการบีบให้เร็วและช้า เพื่อเลียนแบบการดูดนมของทารก ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลของน้ำนม
  5. รักษาความสะอาดมือ อุปกรณ์ปั๊มนม และภาชนะบรรจุนม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและรักษาคุณภาพน้ำนม
  6. สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายขณะปั๊มนม เช่น ดูภาพหรือวิดีโอของลูก นั่งใกล้ลูก ฟังเสียงเพลงที่ชื่นชอบ เป็นต้น จะช่วยให้นมไหลได้ดียิ่งขึ้น
  7. รับประทานอาหารที่เพียงพอ ครบถ้วนไปด้วยสารอาหารหลัก เพื่อส่งเสริมการผลิตน้ำนมให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของลูก

การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถปั๊มนมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่มีน้ำนมค้างคาเต้า พร้อมทั้งป้องกันน้ำนมไหลซึมในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี

คุณแม่รู้ไหม ควรปั๊มนมวันละกี่ออนซ์

เรื่องปริมาณน้ำนมที่คุณแม่ควรปั๊มได้ต่อวันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

ปริมาณน้ำนมที่เหมาะสมสำหรับทารกวัยต่างๆ

  • ทารกอายุ 1-6 เดือน: โดยทั่วไปแล้วทารกวัยนี้ต้องการน้ำนมประมาณ 25-30 ออนซ์ต่อวัน
  • ทารกอายุ 7-12 เดือน: ต้องการน้ำนมประมาณ 30-32 ออนซ์ต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณความต้องการนี้เป็นเพียงค่าโดยประมาณ เนื่องจากทารกแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น

  • น้ำหนักและอายุของทารก
  • อัตราการเจริญเติบโต
  • สุขภาพของทารกและแม่
  • ระยะเวลาระหว่างการให้นมแต่ละมื้อ
  • ปริมาณนมที่ทารกได้รับจากการกินนมจากเต้านม

ดังนั้น แทนที่จะยึดติดกับตัวเลขปริมาณน้ำนมเป็นหลัก สิ่งสำคัญคือคุณแม่ควรปั๊มนมให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย โดยสังเกตจากสัญญาณหิวของลูก พฤติกรรมการกินและการเจริญเติบโต หากลูกมีพัฒนาการที่ดี ร่าเริงแจ่มใส แสดงว่าได้รับนมเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ คุณแม่ควรปั๊มให้ได้มากเท่าที่ร่างกายจะผลิตได้ รวมถึงดูแลสุขภาพตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมการผลิตน้ำนมให้คงที่และเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยนั่นเอง

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular