ลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโตเป็นวัยที่ผู้ปกครองต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะเขาต้องเรียนรู้อีกเยอะว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด ทำไปแล้วต้องมีโทษอย่างไรเพื่อไม่ให้ทำซ้ำอีกครั้ง แต่ความผิดของลูกหลายกรณีที่ผู้ใหญ่ไม่สามารถระงับอารมณ์และลงไม้ลงมือกับลูก กลายเป็นว่า สร้างความหวาดกลัวให้ลูกมากกว่า อีกลักษณะนึงคือปล่อยให้ลูกเรียนรู้ที่จะสงบสติอารมณ์ตามลำพัง เพราะผู้ปกครองไม่ต้องการลงโทษลูกด้วยความรุนแรงตามอารมณ์ด้วย กลายเป็นว่าเมื่อเค้าเติบโตขึ้น เขาก็จะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง
พฤติกรรมในทางที่แย่ลงเมื่อคุณทำโทษลูกด้วยการปล่อยให้อยู่ตามลำพัง คือ
1.ก้าวร้าว :
การที่ปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังคนเดียวแล้วลูกเริ่มมีความก้าวร้าวขึ้น เป็นเพราะว่าเขารู้สึกโกรธที่ผู้ปกครองไม่เอาใจใส่ ด้วยวัยของพวกเขาที่ต้องการความอบอุ่นและความเข้าใจจากครอบครัวแล้ว การทิ้งให้อยู่ลำพังเป็นชนวนที่ทำให้พฤติกรรมของเด็กก้าวร้าว
2.ไม่เชื่อฟังคำสอนของผู้ปกครอง :
การปล่อยให้ลูกอยู่ลำพังเปรียบเสมือนว่าพวกเขาเป็นเด็กเกรี้ยวกราด ลูกก็จะเข้าใจว่าผู้ปกครองรับพฤติกรรมนี้ไม่ได้ และอยากให้ลูกจัดการอารมณ์ด้วยตัวเอง รวมถึงไม่มีศักยภาพในการห้ามปรามเด็ก ในเมื่อพ่อแม่ไม่มีศักยภาพในการให้ลูกควบคุมอารมณ์ได้ แล้วคำสอนต่าง ๆ ในอนาคตจะน่าเชื่อแค่ไหนกัน
3.เพิ่มความตึงเครียดในครอบครัว :
เมื่อลูกโดนทำโทษโดยการปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ความเครียดย่อมตามมา หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้บ่อย ๆ แล้ว ตัวเด็กจะคิดว่าไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครอยากมอบความรักให้เขา ทำให้เขาเกิดพฤติกรรมแปลกแยก และก้าวร้าว ยังทำให้เด็กขาดความเชื่อใจต่อครอบครัวของตัวเองมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกน้อยในวัยเจริญเติบโตคือความอบอุ่นและความเข้าใจจากครอบครัว เมื่อเขาทำสิ่งใดผิดหรือพลาดไป ผู้ปกครองไม่ควรลงโทษเด็กด้วยอารมณ์ หรือปล่อยให้เด็กจัดการอารมณ์ด้วยตัวคนเดียวหรือปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ผู้ปกครองควรให้เหตุและผลจากการกระทำของเขาที่พลาดไป และให้บทลงโทษที่ไร้ความรุนแรงแก่เด็ก การฝึกให้เด็กจัดการอารมณ์เร็วเกินไป หากไม่มีคำแนะนำหรือขาดความใส่ใจของครอบครัวจะเป็นผลร้ายมากกว่า คุณต้องค่อย ๆ อธิบายและสอนเขา เด็กจะยอมรับได้ง่ายกว่าการใช้อารมณ์ที่รุนแรงจากครอบครัวนะคะ
Photo Credit : mentalhealthy.co.uk
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ